ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดหุ้นจีน หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีนประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ อันเนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,514.10 จุด ลดลง 392.41 จุด หรือ -2.32% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,689.43 จุด ลดลง 146.34 จุด หรือ -3.03% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,943.09 จุด ลดลง 47.17 จุด หรือ -2.37%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างตื่นตระหนก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ ตามกลไกเซอร์กิตเบรกเกอร์ ภายหลังดัชนีหุ้นร่วงลงไปกว่า 7%
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่จีนประกาศใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ ซึ่งการประกาศระงับใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์มีขึ้น หลังจากที่เพิ่งมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในตลาดหุ้นจีนได้เพียง 4 วัน
นายเติ้ง เขอ โฆษก CSRC ระบุในแถลงการณ์ว่า "ด้วยเหตุที่ในขณะนี้ ผลกระทบเชิงลบของมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์มีมากกว่าผลในเชิงบวก ทางคณะกรรมการฯ จึงตัดสินใจที่จะระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณจากข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. พุ่งขึ้น 17,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.219 ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลงกว่า 4.2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดิ่งลง 4% ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงกว่า 4.2% และหุ้นยาฮูทรุดฮวบลง 6.2%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเชฟรอนปรับตัวลง 3.5% และหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียร่วงลง 8.4%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้
ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค. ปรับตัวลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 277,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (พฤหัสบดี 7 ม.ค. 59)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,514.10 จุด ลดลง 392.41 จุด -2.32%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,689.43 จุด ลดลง 146.33 จุด -3.03%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,943.09 จุด ลดลง 47.17 จุด -2.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,954.08 จุด ลดลง 119.30 จุด -1.96%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,979.85 จุด ลดลง 234.17 จุด -2.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,403.58 จุด ลดลง 76.89 จุด -1.72%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,068.80 จุด ลดลง 109.20 จุด -2.11%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,010.30 จุด ลดลง 112.80 จุด -2.20%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,852.06 จุด ลดลง 138.33 จุด -1.73%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,767.34 จุด ลดลง 423.98 จุด -2.33%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,904.25 จุด ลดลง 21.18 จุด -1.10%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,618.88 จุด ลดลง 195.02 จุด -2.86%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,333.34 จุด ลดลง 647.47 จุด -3.09%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,530.45 จุด ลดลง 78.53 จุด -1.70%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,729.91 จุด ลดลง 74.36 จุด -2.65%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,655.13 จุด ลดลง 12.84 จุด -0.77%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,851.83 จุด ลดลง 554.50 จุด -2.18%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,514.10 จุด ลดลง 392.41 จุด หรือ -2.32% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,689.43 จุด ลดลง 146.34 จุด หรือ -3.03% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,943.09 จุด ลดลง 47.17 จุด หรือ -2.37%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างตื่นตระหนก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ ตามกลไกเซอร์กิตเบรกเกอร์ ภายหลังดัชนีหุ้นร่วงลงไปกว่า 7%
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่จีนประกาศใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ ซึ่งการประกาศระงับใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์มีขึ้น หลังจากที่เพิ่งมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในตลาดหุ้นจีนได้เพียง 4 วัน
นายเติ้ง เขอ โฆษก CSRC ระบุในแถลงการณ์ว่า "ด้วยเหตุที่ในขณะนี้ ผลกระทบเชิงลบของมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์มีมากกว่าผลในเชิงบวก ทางคณะกรรมการฯ จึงตัดสินใจที่จะระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณจากข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. พุ่งขึ้น 17,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.219 ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลงกว่า 4.2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดิ่งลง 4% ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงกว่า 4.2% และหุ้นยาฮูทรุดฮวบลง 6.2%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเชฟรอนปรับตัวลง 3.5% และหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียร่วงลง 8.4%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้
ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค. ปรับตัวลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 277,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (พฤหัสบดี 7 ม.ค. 59)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,514.10 จุด ลดลง 392.41 จุด -2.32%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,689.43 จุด ลดลง 146.33 จุด -3.03%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,943.09 จุด ลดลง 47.17 จุด -2.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,954.08 จุด ลดลง 119.30 จุด -1.96%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,979.85 จุด ลดลง 234.17 จุด -2.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,403.58 จุด ลดลง 76.89 จุด -1.72%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,068.80 จุด ลดลง 109.20 จุด -2.11%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,010.30 จุด ลดลง 112.80 จุด -2.20%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,852.06 จุด ลดลง 138.33 จุด -1.73%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,767.34 จุด ลดลง 423.98 จุด -2.33%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,904.25 จุด ลดลง 21.18 จุด -1.10%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,618.88 จุด ลดลง 195.02 จุด -2.86%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,333.34 จุด ลดลง 647.47 จุด -3.09%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,530.45 จุด ลดลง 78.53 จุด -1.70%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,729.91 จุด ลดลง 74.36 จุด -2.65%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,655.13 จุด ลดลง 12.84 จุด -0.77%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,851.83 จุด ลดลง 554.50 จุด -2.18%