น.ส.รำภา คำหอมรื่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและรองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากกลุ่มคาสิโนประกาศขายกิจการบิ๊กซี เวียดนามเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2558 และเริ่มทราบถึงความสนใจระดับหนึ่งในการเข้ามาครอบครองหุ้นของบิ๊กซี ประเทศไทย (BIGC) ล่าสุดบริษัท ได้รับแจ้งจากกลุ่มคาสิโนว่า Géant International BV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้ทำสัญญาขายหุ้นกับบริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อและขายหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในบริษัทรวมทั้งสิ้น 483,077,600 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 58.56 ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัท ราคาต่อหุ้นเท่ากับ 252.88 บาท ซึ่งราคาหุ้นอาจจะมีการปรับลงตามจำนวนเงินปันผล ซึ่งผู้ขายอาจได้รับจากบริษัท ตามมติที่ประชุมสามัญประจำปี 2559 ของบริษัท และคาดว่าจะเสร็จสิ้นธุรกรรมการขายหุ้นไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งภายหลังการเสร็จสิ้นธุรกรรมการขายหุ้นผู้ซื้อจะต้องดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ภายใต้ประกาศที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและกฎเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2558 บริษัท ฯ ประกาศแผนดำเนินธุรกิจเน้นการขยายสาขาแห่งใหม่รูปแบบต่างๆ ได้แก่ ขยายไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 สาขา ขยายบิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา และขยายร้านมินิบิ๊กซี 75 สาขา รวมถึงแผนการปรับปรุงพื้นที่เช่าและพื้นที่ขายของไฮเปอร์มาร์เก็ตให้เสร็จภายในปี 2559 จํานวน 7 สาขา ซึ่งในจํานวนนี้รวมสาขาลพบุรีและสาขาบางพลี ซึ่งเริ่มดําเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา โดยปี 2559 บิ๊กซีจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติภายใต้งบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2558 บริษัท ฯ ประกาศแผนดำเนินธุรกิจเน้นการขยายสาขาแห่งใหม่รูปแบบต่างๆ ได้แก่ ขยายไฮเปอร์มาร์เก็ต 6 สาขา ขยายบิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา และขยายร้านมินิบิ๊กซี 75 สาขา รวมถึงแผนการปรับปรุงพื้นที่เช่าและพื้นที่ขายของไฮเปอร์มาร์เก็ตให้เสร็จภายในปี 2559 จํานวน 7 สาขา ซึ่งในจํานวนนี้รวมสาขาลพบุรีและสาขาบางพลี ซึ่งเริ่มดําเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา โดยปี 2559 บิ๊กซีจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติภายใต้งบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท
