พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มกราคมว่า ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ 47/2559 เรื่องให้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญอยู่ในความควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัย รวม 12 ราย โดยมี รศ.ดร.อานนท์ เที่ยงตรง เป็นประธานคณะกรรมการควบคุม และนายกสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญคนใหม่ ขณะที่คณะกรรมการประกอบด้วย ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศ.ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล อดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) รศ.ดร.ศศิวิมล มีอำพล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) รศ.สุภาว์ จุลนาพันธุ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. รศ.มานิตย์ จุมปา อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ดร.กฤษณพงษ์ กีรติกร อดีต รมช.ศึกษาธิการ และ ดร.สุภัทร จำปาทอง รองปลัดกรทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักประสานและส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ สกอ.อีก 2 ราย ทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุม ดำเนินการใน 4 ประเด็น คือ 1.ให้ควบคุมการดำเนินงานในทุกด้านของมหาวิทยาลัยเดินต่อไปได้อย่าสะดุด การเรียนการสอนของนักศึกษา และอาจารย์อย่าให้ขาดตอน 2.ดำเนินแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ที่นำมาสู่การใช้มาตรา 86 โดยดูว่าความขัดแย้งอยู่ตรงไหน ใครผิดใครถูก ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นำความจริงมาเปิดเผยให้ได้ ให้เป็นที่เรียบร้อยและยอมรับกัน 3.สร้างความแข็งแกร่งให้มหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน โดยไปดูกฎระเบียบที่มีอยู่ หากส่วนไหนยังหละหลวมอยู่และนำมาซึ่งปัญหาก็ให้ไปอุดช่องว่าง และอะไรที่ควรเพิ่มเติมในกฎระเบียบก็ให้มี และ 4.ต้องรายงานกลับมาให้กระทรวงศึกษาธิการรับทราบเป็นระยะทุกเดือน
“การออกคำสั่งครั้งนี้ จะมีผลให้คณะกรรมการทั้ง 12 คน แปรสภาพเป็นสภามหาวิทยาลัยเอแบคทันที โดยมี นายอานนท์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งผมได้ขอให้มีการส่งบันทึกการประชุมของสภาเอแบคชุดใหม่มาให้ดูทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งโดย รมว.ศึกษาธิการ จึงต้องลงไปกำกับและทราบความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด”
สำหรับระยะเวลาการเข้าควบคุมนั้น ไม่ได้ตั้งกรอบเอาไว้อย่างชัดเจน เพราะสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาบ้าง และควรแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ก่อนที่คณะกรรมการชุดนี้จะลุกออกมาเพื่อคืนอำนาจให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย
“ตามกฎหมาย จะต้องมีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาไทย เป็นเวลา 3 วัน โดยจะเริ่มจากวันที่ 23 มกราคมนี้ ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะคัดค้าน ก็สามารถยื่นอุทธรณ์มาที่ผมได้ภายใน 30 วัน ซึ่งเราจะให้ความเป็นธรรม และขอให้เชื่อว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่ได้อยากที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่เมื่อถึงเวลาและจำเป็นก็ทำ เพราะเราได้ให้เวลาพูดคุยกันมาไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และเห็นว่าความขัดแย้งเริ่มบานปลายก็ต้องหยุดก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อเอแบค” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุม ดำเนินการใน 4 ประเด็น คือ 1.ให้ควบคุมการดำเนินงานในทุกด้านของมหาวิทยาลัยเดินต่อไปได้อย่าสะดุด การเรียนการสอนของนักศึกษา และอาจารย์อย่าให้ขาดตอน 2.ดำเนินแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ที่นำมาสู่การใช้มาตรา 86 โดยดูว่าความขัดแย้งอยู่ตรงไหน ใครผิดใครถูก ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นำความจริงมาเปิดเผยให้ได้ ให้เป็นที่เรียบร้อยและยอมรับกัน 3.สร้างความแข็งแกร่งให้มหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน โดยไปดูกฎระเบียบที่มีอยู่ หากส่วนไหนยังหละหลวมอยู่และนำมาซึ่งปัญหาก็ให้ไปอุดช่องว่าง และอะไรที่ควรเพิ่มเติมในกฎระเบียบก็ให้มี และ 4.ต้องรายงานกลับมาให้กระทรวงศึกษาธิการรับทราบเป็นระยะทุกเดือน
“การออกคำสั่งครั้งนี้ จะมีผลให้คณะกรรมการทั้ง 12 คน แปรสภาพเป็นสภามหาวิทยาลัยเอแบคทันที โดยมี นายอานนท์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งผมได้ขอให้มีการส่งบันทึกการประชุมของสภาเอแบคชุดใหม่มาให้ดูทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งโดย รมว.ศึกษาธิการ จึงต้องลงไปกำกับและทราบความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด”
สำหรับระยะเวลาการเข้าควบคุมนั้น ไม่ได้ตั้งกรอบเอาไว้อย่างชัดเจน เพราะสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาบ้าง และควรแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ก่อนที่คณะกรรมการชุดนี้จะลุกออกมาเพื่อคืนอำนาจให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย
“ตามกฎหมาย จะต้องมีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาไทย เป็นเวลา 3 วัน โดยจะเริ่มจากวันที่ 23 มกราคมนี้ ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะคัดค้าน ก็สามารถยื่นอุทธรณ์มาที่ผมได้ภายใน 30 วัน ซึ่งเราจะให้ความเป็นธรรม และขอให้เชื่อว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่ได้อยากที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่เมื่อถึงเวลาและจำเป็นก็ทำ เพราะเราได้ให้เวลาพูดคุยกันมาไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และเห็นว่าความขัดแย้งเริ่มบานปลายก็ต้องหยุดก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อเอแบค” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
