นายโสภณ เทพเทียน ถูกตำรวจกองปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. จับกุม พร้อมของกลางสมุดบัญชีเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และข้อความทางแอปพลิเคชันไลน์ ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย ทางอินเทอร์เน็ต
พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการ ปอท.ระบุว่า ผู้ต้องหาใช้วิธี ปลอมรูปภาพ และข้อมูลส่วนตัว อ้างเป็นผู้บริหารธนาคารเอกชน มีโครงการปล่อยเงินกู้ นำไปประกาศในเว็บไซต์ปล่อยเงินกู้ โดยให้ผู้สนใจติดต่อ ทางไลน์ไอดี Bank_kb เรียกเก็บค่าธรรมเนียม อัตราเริ่มต้นยอดเงินกู้ 10,000 เก็บค่าธรรมเนียม 1,000 บาท แต่หากกู้ 50,000 เก็บค่าธรรมเนียม 3,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ ก็จะตัดการติดต่อ มีผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วนับร้อยราย
นายโสภณ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยตนเคยตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันมาก่อนเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2558 เริ่มจากการหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เมื่อเห็นว่าเป็นวิธีการที่ง่าย จึงทดลองนำข้อความมาดัดแปลงข้อความให้เป็นของตัวเอง แล้วโพสต์ลวงผู้อื่นบ้าง เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2558 ถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายถูกตนหลอกมากกว่า 100 ราย ได้เงินหลายแสนบาท
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมฝากเตือนว่า เว็บไซต์ปล่อยเงินกู้ลักษณะดังกล่าวไม่มีอยู่จริง และหากใครเคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง ขอให้มาแจ้งเพื่อดำเนินคดีที่ ปอท.ศูนย์ราชการ
พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการ ปอท.ระบุว่า ผู้ต้องหาใช้วิธี ปลอมรูปภาพ และข้อมูลส่วนตัว อ้างเป็นผู้บริหารธนาคารเอกชน มีโครงการปล่อยเงินกู้ นำไปประกาศในเว็บไซต์ปล่อยเงินกู้ โดยให้ผู้สนใจติดต่อ ทางไลน์ไอดี Bank_kb เรียกเก็บค่าธรรมเนียม อัตราเริ่มต้นยอดเงินกู้ 10,000 เก็บค่าธรรมเนียม 1,000 บาท แต่หากกู้ 50,000 เก็บค่าธรรมเนียม 3,000 บาท เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ ก็จะตัดการติดต่อ มีผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วนับร้อยราย
นายโสภณ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยตนเคยตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันมาก่อนเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2558 เริ่มจากการหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เมื่อเห็นว่าเป็นวิธีการที่ง่าย จึงทดลองนำข้อความมาดัดแปลงข้อความให้เป็นของตัวเอง แล้วโพสต์ลวงผู้อื่นบ้าง เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2558 ถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายถูกตนหลอกมากกว่า 100 ราย ได้เงินหลายแสนบาท
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท พร้อมฝากเตือนว่า เว็บไซต์ปล่อยเงินกู้ลักษณะดังกล่าวไม่มีอยู่จริง และหากใครเคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง ขอให้มาแจ้งเพื่อดำเนินคดีที่ ปอท.ศูนย์ราชการ
