สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงไปถึง 29.13 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 28.94 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2004
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันศุกร์(15ม.ค.) ถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่และความคาดหมายว่าอิหร่านจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการปล่อยอุปทานน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลเข้าสู่ตลาด เมื่อได้รับการปลดมาตรการคว่ำบาตรต่อโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
ปัจจัยราคาพลังงานและความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน ยังฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบแรงในวันศุกร์(15ม.ค.) เคลื่อนไหวตามตลาดทุนอื่นๆทั่วยุโรป
ดาวโจนส์ ลดลง 390.97 จุด (2.39 เปอร์เซ็นต์) ปิด15,988.08 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 41.51 จุด (2.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,880.33 จุด แนสแดค ลดลง 126.58 จุด (2.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,488.42 จุด
แรงเทขายในวอลล์สตรีท มีขึ้นตามหลังความเคลื่อนไหวของตลาดทุนยุโรป ที่ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงอย่างหนักถึง 3.6 เปอร์เซ็นต์ของตลาดหลักทรัพย์จีน
นอกจากนี้แล้วความรู้สึกในทางลบยังถูกซ้ำเติมจากราคาน้ำมันที่ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 12 ปีรอบใหม่ และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเหล่าธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างเวลล์ส ฟาร์โกและซิตี้กรุ๊ป
ภาวะสั่นคลอนของตลาดหุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมัน ผลักให้นักลงทุนแห่มาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(15ม.ค.) พุ่งแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,090.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันศุกร์(15ม.ค.) ถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่และความคาดหมายว่าอิหร่านจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการปล่อยอุปทานน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลเข้าสู่ตลาด เมื่อได้รับการปลดมาตรการคว่ำบาตรต่อโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
ปัจจัยราคาพลังงานและความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน ยังฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบแรงในวันศุกร์(15ม.ค.) เคลื่อนไหวตามตลาดทุนอื่นๆทั่วยุโรป
ดาวโจนส์ ลดลง 390.97 จุด (2.39 เปอร์เซ็นต์) ปิด15,988.08 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 41.51 จุด (2.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,880.33 จุด แนสแดค ลดลง 126.58 จุด (2.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,488.42 จุด
แรงเทขายในวอลล์สตรีท มีขึ้นตามหลังความเคลื่อนไหวของตลาดทุนยุโรป ที่ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงอย่างหนักถึง 3.6 เปอร์เซ็นต์ของตลาดหลักทรัพย์จีน
นอกจากนี้แล้วความรู้สึกในทางลบยังถูกซ้ำเติมจากราคาน้ำมันที่ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 12 ปีรอบใหม่ และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเหล่าธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างเวลล์ส ฟาร์โกและซิตี้กรุ๊ป
ภาวะสั่นคลอนของตลาดหุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมัน ผลักให้นักลงทุนแห่มาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(15ม.ค.) พุ่งแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,090.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์