xs
xsm
sm
md
lg

ธปท. เกาะติดสถานการณ์ตลาดหุ้นจีน คาดมีผลกระทบต่อไทยในวงจำกัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธปท. เกาะติดสถานการณ์ตลาดหุ้นจีน คาดมีผลกระทบต่อไทยในวงจำกัด โดยการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศจีนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรง แต่จะเป็นการลงทุนผ่านกองทุน FIF ซึ่งลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีเรตติงในระดับสูง A+/A อีกทอดหนึ่ง

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีจีนระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 1,249 ราย ในตลาดหุ้น โดยประเมินว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีนปรับลดลงอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อความผันผวน และเทขายหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ผลต่อเศรษฐกิจจีนล่าสุดยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจน โดยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนยังมีถึงเดือนพฤษภาคม 2558 แต่หากตลาดหุ้นยังคงปรับลดต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจผ่านความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ลดลง และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือน (Wealth effect) ที่ปรับลดลง ทั้งจากเงินออม และมูลค่าราคาทรัพย์สิน ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคของภาคครัวเรือนระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อการระดมทุนในจีนไม่น่าจะมาก เพราะการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์มีเพียงร้อยละ 2

ปัจจุบัน กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์จีนมีการถือครองคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าตลาด ซึ่งนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ใช้เงินลงทุนจากเงินออม และการกู้ยืมแบบ margin loan ดังนั้น เมื่อราคาหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันลดลง นักลงทุนเหล่านี้จะถูกบังคับขายหลักทรัพย์และต้องรับผลขาดทุน

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จีนปรับลดลงจะส่งผลต่อบรรยากาศของนักลงทุนบ้าง แต่ภาพรวมผลกระทบต่อตลาดเงินโลกยังมีไม่มาก สำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศจีนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรง แต่จะเป็นการลงทุนผ่านกองทุน FIF ซึ่งลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีเรตติงในระดับสูง (A+/A) อีกทอดหนึ่ง โดยรวมการปรับลดลงของตลาดหลักทรัพย์จีน จึงประเมินว่า น่าจะมีผลกระทบต่อฐานะการลงทุนของไทยค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม ธปท. ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น