นายสุนทร ลำงาม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม. 9 ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ และเพื่อนเกษตรกรอีก 3 คน ได้ร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยแก้ปัญหาหมามุ่ยที่พวกตนได้ปลูกทดแทนยางพาราที่ราคาตกต่ำตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี ขณะนี้หมามุ่ยที่ปลูกสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่ไม่มีตลาดรองรับ กล่าวคือปลูกได้ผลผลิตแล้วแต่ขายไม่ได้ จึงวอนให้นายกฯหรือรัฐบาลหาตลาดให้ ตามที่เคยแนะนำเกษตรกรไว้
นายสุนทร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 57 พวกตนได้รับการชักชวนจากญาติๆ ว่า มีบริษัท บ้านไร่เกษตรฯ สำนักงานตั้งอยู่ ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราแต่ราคาตกต่ำ ให้หันมาปลูกหมามุ่ยแทนซึ่งมีรายได้สูง กก.ละ 2,000 บาท หรือ 150,000 ต่อไร่ ประกอบกับต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้พูดออกทีวี สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพร ยกตัวอย่างหมามุ่ยเมื่อส่งไปประเทศอินเดียแปรรูปแล้วมีมูลค่าสูงขึ้นหลายเท่า พวตนจึงได้ตกลงใจสมัครเป็นสมาชิก และทำหนังสือสัญญาแรกเข้ารายละ 4,900 บาทกับทางบริษัท ซึ่งให้เมล็ดพันธุ์หมามุ่ยคนละ 300 เม็ดพร้อมกับยา จากนั้นได้ลงทุนเตรียมแปลงปลูก ทำร้าน และซื้อปุ๋ยอินทรีย์ เพราะต้องการให้เมล็ดปลอดสารพิษ รวมค่าใช้จ่าย ตกไร่ละ 3-4 หมื่นบาท
เกษตรกรผู้ปลูกหมามุ่ย กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯรับปากว่า หากไม่มีตลาดทางบริษัทยินดีรับซื้อทั้งหมด แต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจริงๆ ได้ติดต่อไปทางบริษัท ปรากฏว่าไม่รับแม้แต่โทรศัพท์ ทำให้คิดว่าพวกตนน่าจะถูกหลอก จึงได้รวมตัวกันเข้าพบผู้สื่อข่าว เพื่อวอนไปถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือหาตลาดให้ เพราะเรื่องนี้นายกฯเคยแนะนำไว้กับเกษตรกรทางโทรทัศน์
นายสุนทร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 57 พวกตนได้รับการชักชวนจากญาติๆ ว่า มีบริษัท บ้านไร่เกษตรฯ สำนักงานตั้งอยู่ ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราแต่ราคาตกต่ำ ให้หันมาปลูกหมามุ่ยแทนซึ่งมีรายได้สูง กก.ละ 2,000 บาท หรือ 150,000 ต่อไร่ ประกอบกับต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้พูดออกทีวี สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพร ยกตัวอย่างหมามุ่ยเมื่อส่งไปประเทศอินเดียแปรรูปแล้วมีมูลค่าสูงขึ้นหลายเท่า พวตนจึงได้ตกลงใจสมัครเป็นสมาชิก และทำหนังสือสัญญาแรกเข้ารายละ 4,900 บาทกับทางบริษัท ซึ่งให้เมล็ดพันธุ์หมามุ่ยคนละ 300 เม็ดพร้อมกับยา จากนั้นได้ลงทุนเตรียมแปลงปลูก ทำร้าน และซื้อปุ๋ยอินทรีย์ เพราะต้องการให้เมล็ดปลอดสารพิษ รวมค่าใช้จ่าย ตกไร่ละ 3-4 หมื่นบาท
เกษตรกรผู้ปลูกหมามุ่ย กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯรับปากว่า หากไม่มีตลาดทางบริษัทยินดีรับซื้อทั้งหมด แต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจริงๆ ได้ติดต่อไปทางบริษัท ปรากฏว่าไม่รับแม้แต่โทรศัพท์ ทำให้คิดว่าพวกตนน่าจะถูกหลอก จึงได้รวมตัวกันเข้าพบผู้สื่อข่าว เพื่อวอนไปถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือหาตลาดให้ เพราะเรื่องนี้นายกฯเคยแนะนำไว้กับเกษตรกรทางโทรทัศน์