จากกรณี กล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร บริเวณปากซอยถนนมิตรไมตรี บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างรถกระบะวีโก้สีดำและรถยนต์ยาริสสีแดงเอาไว้ได้ ตั้งแต่อยู่บน ถ.วิภาวดีขาเข้าจนถึงช่วงเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.มิตรไมตรี รถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับมาในลักษณะไม่ยอมให้ทางแก่กันและกัน กระทั่งผู้ขับรถยนต์ยารีสลงจากรถ และกระบะวีโก้สีดำถอยหลังมาชน
วันนี้ (10 ม.ค. 2559) พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เผยว่า ภาพจากกล้องวงจรเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าทั้ง 2 คน ขับรถยนต์มาในลักษณะไม่ยอมให้ทางแก่กันและกัน และมีความผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะที่นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง กล่าวว่า เคยเกิดเหตุเฉี่ยวชนจริง และหน้าเฟซบุ๊กที่ส่งต่อคลิปการเกิดอุบัติเหตุที่ใช้ชื่อว่า ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ก็เป็นเฟซบุ๊กของตัวเองเช่นกัน แต่ยืนยันว่าเป็นฝ่ายขับขี่ถูกกฎจราจรทุกครั้ง
ด้านพนักงานสอบสวนให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า เกิดจากความผิดของทั้ง 2 ฝ่าย จากการพิจารณาตามพยานหลักฐานแล้ว ได้แจ้งข้อ นายภัทรศักดิ์ เจ้าของรถกระบะผู้ก่อเหตุถอยชนรถยนต์ยารีส ในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น กระทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่จิตใจ ส่วนข้อหาเจตนากระทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยไม่ติดใจเอาความแก่กัน เนื่องจากต่างก็มีส่วนกระทำผิด ทางพนักงานสอบสวนจึงเห็นควรให้ยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของ นายภัทรศักดิ์ เป็นเวลา 60 วัน
ส่วนนายกวินกาญจน์ ศรีฤาชา เจ้าของรถยนต์ยาริส ถูกแจ้งข้อหาแซงรถในที่คับขัน ซึ่งนายกวินกาญจน์ ยอมรับผิด และเสียค่าปรับเต็มอัตราจำนวน 1,000 บาท
วันนี้ (10 ม.ค. 2559) พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เผยว่า ภาพจากกล้องวงจรเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าทั้ง 2 คน ขับรถยนต์มาในลักษณะไม่ยอมให้ทางแก่กันและกัน และมีความผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะที่นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง กล่าวว่า เคยเกิดเหตุเฉี่ยวชนจริง และหน้าเฟซบุ๊กที่ส่งต่อคลิปการเกิดอุบัติเหตุที่ใช้ชื่อว่า ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ก็เป็นเฟซบุ๊กของตัวเองเช่นกัน แต่ยืนยันว่าเป็นฝ่ายขับขี่ถูกกฎจราจรทุกครั้ง
ด้านพนักงานสอบสวนให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า เกิดจากความผิดของทั้ง 2 ฝ่าย จากการพิจารณาตามพยานหลักฐานแล้ว ได้แจ้งข้อ นายภัทรศักดิ์ เจ้าของรถกระบะผู้ก่อเหตุถอยชนรถยนต์ยารีส ในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น กระทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่จิตใจ ส่วนข้อหาเจตนากระทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยไม่ติดใจเอาความแก่กัน เนื่องจากต่างก็มีส่วนกระทำผิด ทางพนักงานสอบสวนจึงเห็นควรให้ยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของ นายภัทรศักดิ์ เป็นเวลา 60 วัน
ส่วนนายกวินกาญจน์ ศรีฤาชา เจ้าของรถยนต์ยาริส ถูกแจ้งข้อหาแซงรถในที่คับขัน ซึ่งนายกวินกาญจน์ ยอมรับผิด และเสียค่าปรับเต็มอัตราจำนวน 1,000 บาท