นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอยากเคลียร์ปมทุจริตกรุงเทพมหานคร แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่รับโทรศัพท์ แถมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังห้ามประชุมพรรค ว่าเรื่องนี้ถือเป็นภาพสะท้อนภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ และกลไกตรวจสอบการทำงานของบุคลากรทางการเมืองของพรรคที่อาจมีปัญหา ประเทศไทยวันนี้มี 4 จีใช้ แต่ดูเหมือน 2 คนนี้ จะมีอุปสรรคในการสื่อสาร โทรหากันไม่ได้มานานร่วมปี โดยปรัชญาพื้นฐาน พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค คนที่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ส่วนหนึ่งอาจเลือกจากเชื่อในความเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่น่าจะมีระบบตรวจสอบถ่วงดุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของพรรคตัวเอง แต่เอาเข้าจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น หลายโครงการที่แฉกันเอง ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่ควรจะปล่อยให้เงียบหาย คสช.เองควรสนับสนุนให้มีการตรวจสอบ ทำความจริงให้เปิดเผย โปร่งใส ไม่ใช่ คาดโทษ พวกออกมาแฉปากเปล่า นายอภิสิทธิ์ อาจมีตัวช่วยในหลายเรื่อง แพ้เลือกตั้ง 3 ครั้ง ก็ไม่ต้องลาออก ทั้งที่หัวหน้าพรรคการเมืองที่อังกฤษ ประเทศต้นแบบประชาธิปไตยที่นายอภิสิทธิ์ไปเรียน แพ้เลือกตั้งครั้งเดียวเขารับผิดชอบลาออก แต่นายอภิสิทธิ์ ถึงจะแพ้แต่ยังถูกอุ้มไปเป็นนายกรัฐมนตรี 1 ครั้ง ขอคืนพื้นที่ เสียชีวิต 99 ศพ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยกคำร้องข้อกล่าวหา ไม่มีความผิด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดดออกมาอุ้ม นายอภิสิทธิ์ ไม่หมดสิทธิ์ทางการเมืองในการลงสมัคร ส.ส.แม้ศาลแพ่งมีคำพิพากษา ปมคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ นายอภิสิทธิ์ มีอภิสิทธิ์ ได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นหรือไม่ สังคมมีคำตอบ ส่วนปมทุจริตในกรุงเทพมหานคร สังคมจับตาดูท่าทีและบทบาท คสช. ว่าจะเลือกยืนข้างไหน จะเลือกเป็นตัวช่วยให้อภิสิทธิ์ หรือ ปล่อยเวลาให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้อยู่ต่อในเส้นทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไป