ศาลฉะเชิงเทราไม่ให้ประกันตัว 2 ตร.ปส. ขณะ ผบช.ภ.2 ลงพื้นที่ดูคดี

ฉะเชิงเทรา - ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา สั่งยกคำร้องขอประกัน 2 ตร.ปส. ขณะ ผบช.ภ.2 ลงพื้นที่ ตั้งรอง ผบช.ดูแลสำนวน ระบุให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมเร่งติดตามหาตัวหนุ่มวัย 19 ที่ถูกอุ้มหายตัวไป ทำญาติสบายใจมากขึ้น ยอมสลายการชุมนุมกลับไป ด้าน ผบก.ยันไม่ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (21 ธ.ค.) ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีคำสั่งยกคำร้องการขอประกันตัว ของ 2 นายตำรวจ ชุด ปส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา หลังจากพนักงานสอบสวนได้คุมตัว ด.ต.อัตชัย คล้ายวงษ์ และ ร.ต.ท.รังษิต วรหวัง มาถึงยังศาล ในเวลา 09.00 น. ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฝ่ายกดดัน ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และฝั่งตรงข้ามศาลจังหวัด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการรวบรวมสำนวนคดีส่งไปให้ให้ศาลพิจารณาในเวลา 13.00 น. พร้อมยื่นคำร้องคัดค้านการขอประกันตัวจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยศาลใช้เวลาในพิจารณาตรวจสอบสำนวนคำร้องโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จนกระทั่งในเวลา 15.00 น. จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องการขอประกันตัวในชั้นศาล ของ 2 นายตำรวจดังกล่าว โดยไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามคำร้องขอ พร้อมเตรียมนำตัวส่งเข้าเรือนจำกลาง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผลัดแรก รวมระยะเวลา 12 วัน

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบช.ภ.2 ได้เดินทางยังที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามดูความคืบหน้าของคดีดังกล่าวซึ่งยังอยู่ในความสนใจของประชาชน โดยได้เข้ามาพูดคุยหารือกันระหว่างนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ภายในห้องทำงานของ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา โดยมีญาติของ นายณัฐพงศ์ ศรีคะโชติ อายุ 19 ปี ประกอบด้วย ผู้เป็นบิดา และมารดา รวมถึงอา และลุงของผู้ที่ถูกอุ้มหายตัวไปรวม 4 คน เข้ามาร่วมพูดคุยกันภายในห้องดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังด้วย

หลังการพูดคุยกันเป็นเวลานานกว่า 1 ชม. 30 นาที กลุ่มญาติของผู้สูญหายจึงได้เดินออกมาจากห้องทำงานของ ผบก.ฉะเชิงเทรา พร้อมระบุว่า ทาง ผบช.ภ.2 ได้ให้ความมั่นใจต่อทางญาติว่า จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และจะช่วยตามหาตัวบุตรชายให้ได้ไวที่สุด และจะทำตามหน้าที่ ใครทำผิดกฎหมายก็จะต้องถูกดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ตอนนี้จึงเริ่มมีความมั่นใจในการทำงานของตำรวจมากขึ้น โดยจะลองเชื่อมั่นผู้การดูอีกสักครั้งว่าท่านจะช่วยเราจริงๆ และอยากได้ลูกคืนมาให้เร็วที่สุด

และได้ขอร้องต่อทางผู้การฯ ว่า หากตำรวจจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในบ้านก็ขอให้แสดงบัตรเจ้าพนักงานด้วยก่อนที่จะเข้าบ้าน เพราะที่ผ่านมา ตำรวจไม่ได้แต่งชุดสีกากีเข้าไปเลย โดยเพียงแต่บอกว่าเป็นตำรวจ คนนี้ก็เป็นตำรวจ ทางเราก็เลยไม่รู้ว่าใครเป็นตำรวจบ้าง เพราะเห็นบอกว่าเป็นตำรวจกันหมดทุกคน และหลังจากศาลมีคำสั่งยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว 2 นายตำรวจไปแล้ว ก็ทำให้ทางญาติรู้สึกสบายใจมากขึ้น ทำให้พยานได้รู้สึกว่าไม่เป็นอันตราย เพราะพยานก็กลัว ทางญาติเองก็กลัวเหมือนกัน

พล.ต.ท.ธเนตร์ กล่าวว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดไปฝากขังยังที่ศาลเป็นผลัดแรก สำหรับเรื่องนี้ เนื่องจากว่ามีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิด จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบช.ภ.2 มากำกับดูแลการสืบสวน สอบสวน ในเบื้องต้น ก็ให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อให้รู้ตัวผู้กระทำความผิด และค้นหาตัวเด็กหนุ่มที่หายตัวไปในขณะนี้ให้ได้เร็วที่สุด

จากการสอบปากคำนายตำรวจทั้ง 2 นายในเบื้องต้นนั้น ทั้ง 2 นาย ยังให้การปฏิเสธ ตอนนี้เราใช้ทุกวิถีทางในการสืบสวนหาพยานหลักฐาน โดยให้รองผู้บัญชาการได้นำทีมสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 2 ลงมาในพื้นที่ ในการพยายามสืบสวนหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในทุกๆ ด้าน ส่วนผลการตรวจสอบทะเบียนรถที่ส่งไปตรวจสอบนั้น วันนี้ยังไม่ได้ผลกลับมา

โดยขอยืนยันว่าคดีนี้จะทำด้วยความละเอียดรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยได้ให้ความมั่นใจแก่ทางญาติ และจะลงมาดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจหรือไม่ก็ตาม โดยถ้าตำรวจจะเข้าไปกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อเจ้าของบ้าน ก็ต้องแสดงตนว่าเป็นตำรวจ ส่วนการที่เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้รับแจ้งความ ได้สั่งให้ผู้บังคับการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาว่าเป็นความบกพร่องหรือไม่

และในวันเกิดเหตุก็ได้รับการยืนยันจากทางผู้บังคับการว่า ไม่ได้สั่งการให้ตำรวจทั้ง 2 นาย ลงไปปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องผิดหรือไม่ผิดนั้นต้องขอระยะเวลาในการสืบสวน ในตอนนี้มีตำรวจถูกกล่าวหา และได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงต้องขอระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนให้ได้พยานหลักฐานชัดเจน เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา “บุกรุกในเคหสถานและกักขังหน่วงเหนี่ยว” ต่อตำรวจทั้ง 2 นายไปแล้ว