นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ พร้อมด้วยนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสการจัดซื้อจัดจ้าง 3 โครงการของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ กรณีการจัดซื้อจัดจ้างกล้อง CCTV จำนวน 47,000 ตัว แต่กลับพบว่ามีการจัดซื้อจริงเพียง 12,000 ตัวเท่านั้น กรณีการต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสออกไปอีก 30 ปี ทั้งที่สัญญาเดิมยังเหลืออีก 17 ปี และโครงการติดตั้งไฟประดับบริเวณลานคนเมืองกรุงเทพมหานคร วงเงิน 39.5 ล้านบาท ทั้งนี้ พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
นายวิลาศ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการประดับไฟ อาจมีการฮั้วกับบริษัทที่ได้รับประมูล เพราะเป็นการยื่นซองในเวลาอันรวดเร็วและไม่มีการเปิดเผยขั้นตอนการประมูล รวมถึงบริษัทที่ประมูลได้นั้นเคยถูกตนตรวจสอบในขณะที่เป็นกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้จัดทัวร์ให้กับสมาชิกสภาเขตไปยุโรปหลายครั้งในราคาที่แพงเกินจริง ส่วนบริษัทที่ไม่ชนะการประมูล มีการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ก่อนวันยื่นซองประมูลเพียงไม่กี่วัน ทั้งนี้ เชื่อว่าการเบิกจ่ายงบในแต่ละโครงการของกรุงเทพมหานครมีความไม่โปร่งใส และอาจกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
นายวิลาศ ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครเป็นข้อเท็จจริง มีหลักฐานชัดเจนว่าส่อทุจริต ประพฤติมิชอบ และขอให้กรุงเทพมหานครนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ทั้งนี้ นายวิลาศ และนายวัชระ ได้เดินทางไปยื่นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ อีกช่องทางด้วย
นายวิลาศ กล่าวว่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการประดับไฟ อาจมีการฮั้วกับบริษัทที่ได้รับประมูล เพราะเป็นการยื่นซองในเวลาอันรวดเร็วและไม่มีการเปิดเผยขั้นตอนการประมูล รวมถึงบริษัทที่ประมูลได้นั้นเคยถูกตนตรวจสอบในขณะที่เป็นกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้จัดทัวร์ให้กับสมาชิกสภาเขตไปยุโรปหลายครั้งในราคาที่แพงเกินจริง ส่วนบริษัทที่ไม่ชนะการประมูล มีการขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ก่อนวันยื่นซองประมูลเพียงไม่กี่วัน ทั้งนี้ เชื่อว่าการเบิกจ่ายงบในแต่ละโครงการของกรุงเทพมหานครมีความไม่โปร่งใส และอาจกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
นายวิลาศ ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครเป็นข้อเท็จจริง มีหลักฐานชัดเจนว่าส่อทุจริต ประพฤติมิชอบ และขอให้กรุงเทพมหานครนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์
ทั้งนี้ นายวิลาศ และนายวัชระ ได้เดินทางไปยื่นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ อีกช่องทางด้วย
