ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปี 2558 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตลอดจนข้อมูลยอดขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 31 ธ.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 178.84 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 17,425.03 จุด ผลงานโดยรวมตลอดปีลดลง 2.2% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 19.42 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 2,043.94 จุด สรุปรายปีลดลง 0.7% และเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 58.44 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 5,007.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.7% ในปี 2015
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดลงของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี อาจเป็นผลมาจากการซื้อขายที่เบาบาง และมีแรงกระตุ้นให้ขายหุ้นขาดทุนในช่วงสิ้นปี เพื่อเหตุผลทางภาษี ขณะที่การปิดการซื้อขายรายปีด้วยการลดลง อาจเป็นการส่งสัญญาณการสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนีหุ้น นับตั้งแต่เกิดวิกฤติทางการเงินก็เป็นได้
การที่ราคาน้ำมันร่วงลงไปถึง 3.4% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ตลาดวอลล์สตรีทร่วงลง โดยราคาสัญญาน้ำมันล่วงหน้าร่วงลงไป 11% ในเดือนธ.ค. และปรับตัวลง 30.5% เมื่อเทียบรายปี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 31 ธ.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 178.84 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 17,425.03 จุด ผลงานโดยรวมตลอดปีลดลง 2.2% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 19.42 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 2,043.94 จุด สรุปรายปีลดลง 0.7% และเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 58.44 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 5,007.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.7% ในปี 2015
นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดลงของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี อาจเป็นผลมาจากการซื้อขายที่เบาบาง และมีแรงกระตุ้นให้ขายหุ้นขาดทุนในช่วงสิ้นปี เพื่อเหตุผลทางภาษี ขณะที่การปิดการซื้อขายรายปีด้วยการลดลง อาจเป็นการส่งสัญญาณการสิ้นสุดการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนีหุ้น นับตั้งแต่เกิดวิกฤติทางการเงินก็เป็นได้
การที่ราคาน้ำมันร่วงลงไปถึง 3.4% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ตลาดวอลล์สตรีทร่วงลง โดยราคาสัญญาน้ำมันล่วงหน้าร่วงลงไป 11% ในเดือนธ.ค. และปรับตัวลง 30.5% เมื่อเทียบรายปี
