นายพสุ โลหารชุน อธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ยอดตั้งโรงงานใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม - 23 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 4,351 โรงงาน ลดลงร้อยละ 7.77 เมื่อเทียบกับปี 2557 ในขณะที่ยอดเงินลงทุนรวม 386,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.24 และมีการจ้างงาน 115,682 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.86 ส่วนการขยายกิจการ มีจำนวน 933 โรงงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.04 สำหรับยอดเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการตั้งแต่เดือนมกราคม- 23 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 5,284 โรงงานลดลงร้อยละ 4.31 เมื่อเทียบกับปีก่อน ยอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 583,113 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25 พร้อมระบุว่าแม้จะมีปัจจัยลบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทก็ตาม แต่ขณะนี้ในประเทศเศรษฐกิจถือว่ามีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีอำนาจการซื้อมากขึ้น และผู้ประกอบการมีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลดลง
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 ยอดเปิดกิจการและขยายกิจการจะมีแนวโน้มทรงตัว หรือสูงขึ้นกว่าปีนี้ประมาณร้อยละ 5 เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการลงทุน โดยกำหนดมาตรการสนับสนุนทั้ง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตที่สอดคล้องกับการกำหนด 9 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม (โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม) รวมทั้งการออกสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันที่มีการคาดการณ์ยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อการเปิดโรงงานและขยายกิจการในปีหน้า จะมาจากเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลต่อการลงทุนของผู้ประกอบการ และการบริโภคของประชาชน
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2559 ยอดเปิดกิจการและขยายกิจการจะมีแนวโน้มทรงตัว หรือสูงขึ้นกว่าปีนี้ประมาณร้อยละ 5 เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการลงทุน โดยกำหนดมาตรการสนับสนุนทั้ง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตที่สอดคล้องกับการกำหนด 9 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม (โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม) รวมทั้งการออกสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันที่มีการคาดการณ์ยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อการเปิดโรงงานและขยายกิจการในปีหน้า จะมาจากเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผลต่อการลงทุนของผู้ประกอบการ และการบริโภคของประชาชน