xs
xsm
sm
md
lg

รถเครนพลาดทำศาลาเก่าวัดซางตาครู้สพัง ชาวชุมชนกุฎีจีนแจ้งกรมศิลป์ตรวจสอบด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pornthep Sorkool ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ถึงแม้ในสายตา ใครหลายๆ คนอาจจะมองเห็นเป็นแค่ ศาลาไม้เก่าๆ เพียงหลังนึงเท่านั้น แต่สำหรับพวกเราชาวชุมชนกุฎีจีน ไม่ใช่แค่นั้นมันมีคุณค่าและความหมายต่อจิตใจของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก ทั้งอายุการใช้งานที่มีมานานเป็นร้อยปี ทั้งความสุขและความทรงจำ ที่มีต่อศาลาแห่งนี้ เราขอให้คุณรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และทำให้เหมือนเดิมที่สุดเท่าที่จะทำได้ถ้าไม่เหมือนเดิมเราไม่ยอมแน่ๆ" พร้อมกับโพสต์ภาพศาลาไม้ริมน้ำหลังเก่าของวัดซางตาครู้ส ในสภาพพังเสียหาย

นายปติสร เพ็ญสุต นักประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ทราบเรื่องจากการเเจ้งผ่านทางเฟซบุ๊กของชาวบ้านในชุมชนที่มีการเเชร์กันว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คือตอนนี้มีการทำสะพานเขื่อน หน้าวัดซางตาครู้ส ยาวไปถึงหน้าวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นทางเดินเลียบริมเเม่น้ำเจ้าพระยา ทีนี้ก็มีการซ่อมเเซมจากบริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารไปถึงสะพานพุทธ เเล้วมีเครนที่น่าจะตั้งค่าไว้ไม่ดีเลยตักมาถูกศาลาเก่าของวัดซางตาครู้สน่าจะเสียหายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ของที่นี่ เเต่ชุมชนที่นี่ค่อนข้างเข้มเเข็ง มีการเเจ้งความเเล้ว เเละทางผู้รับเหมาเองก็จะรับผิดชอบเรื่องนี้ เเล้วยังมีการเเจ้งเรื่องไปยังกรมศิลปากรเเล้ว

"ศาลาเก่าหลังนี้เป็นศาลาไม้หลังไม่ใหญ่มากเเต่มีความสวยงามเเละมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะศาลาเเห่งนี้อยู่บริเวณท่าน้ำหลักของวัดซึ่งสมัยก่อนคนไทยจะมาวัดก็ต้องขึ้นลงทางนี้ เเละยังอยู่ตรงกับประตูโบสถ์พอดี ชาวบ้านที่อายุ 70 ปีขึ้นไปก็บอกว่าเกิดมาก็เห็นศาลานี้เเล้ว จึงน่าจะมีอายุ 100 ปีขึ้นไป สร้างขึ้นในยุคเดียวกับตัวโบสถ์ ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 ประมาณปี 2453 ตัวศาลาเป็นทรงวิคตอเรียนเเบบขนมปังขิง มีมุข 4 ด้าน ซึ่งตอนนี้ได้รับความเสียหายคือพังไป 2 ด้านข้างหลัง เบื้องต้นเเนวทางการซ่อมเเซมจะต้องเทียบเคียงกับรูปถ่ายเก่า เเละผมก็เเนะนำให้ชาวบ้านเก็บชิ้นส่วนของไม้แกะสลัก ไม้ฉลุเเบบขนมปังขิงไว้ อย่าเพิ่งทิ้งเพื่อให้เป็นตัวอย่างสำหรับตรวจสอบเวลาเซ็นรับงาน เเละใช้ไม้ของเดิมเป็นไม้สักต้องใช้ของเเทนกันที่จะต้องเหมือนกันเท่านั้น" นายปติสรกล่าว

นายปติสรกล่าวอีกว่า จากที่สอบถามไปยังกรมศิลปากรเขาก็บอกว่าไม่เเน่ใจว่าศาลาหลังนี้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานหรือเปล่า เเต่ตอนที่กรมศิลปากรเข้ามาสำรวจก็จัดไว้ว่าเป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่า ทางกรมศิลปากรจึงเสนอว่าจะส่งคนเข้ามาดูเเลจัดการ จึงอยากเเนะนำให้ทางวัดติดต่อกรมศิลปากรเพื่อที่จะดูด้วยว่าช่างจากที่ไหนจะเป็นคนเขียนเเบบในการซ่อม
กำลังโหลดความคิดเห็น