พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมอบนโยบายกำหนดแนวทางและติดตามการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ว่า เนื่องจากการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องเร่งป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงขอย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 9 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ สืบสวนหาข่าว และติดตามพฤติการณ์เจ้าของหรือผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ ที่ใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ และแรงงานค้ามนุษย์ หากพบการกระทำผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย
การมุ่งเน้นการสืบสวน ตรวจสอบและติดตามพฤติการณ์เจ้าของเรือ ผู้ประกอบการเรือประมงที่ใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ และแรงงานค้ามนุษย์ หากพบการกระทำผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย ขณะที่ในการดำเนินคดี หากพบว่าพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ให้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าวอีกส่วนหนึ่งด้วย รวมตลอดถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนทุกฉบับ
ส่วนพนักงานสอบสวน ต้องทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียด รอบคอบ รัดกุม และเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้การนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การเร่งรัดการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับในคดีความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แต่ละหน่วยมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดรับผิดชอบสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับแต่ละหมายอย่างชัดเจน และรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกระยะ
นอกจากนี้ ต้องมีการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของธุรกิจ นายหน้า นายทุน ผู้ให้การสนับสนุน ผู้นำพา ผู้ให้ที่พักพิง และเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง
ส่วนผู้ใช้แรงงานที่เป็นเหยื่อจากการกระทำความผิด ต้องได้รับความช่วยเหลือและคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ระดมสรรพกำลัง เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยให้มีการสนธิกำลังและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และสำหรับในห้วงเดือนธันวาคม 2558 - มกราคม 2559 ให้เพิ่มความเข้มในการดำเนินการเป็นพิเศษเพื่อให้ปรากฏผลชัดเจน เป็นรูปธรรมมากที่สุด
นอกจากนี้ กำชับข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในสังกัด มิให้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ จากผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการค้ามนุษย์เป็นอันขาด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางอาญา วินัย และทางปกครองอย่างเด็ดขาด และหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย ไม่สนใจตรวจสอบ สืบสวนปราบปรามจับกุม ให้พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เมษายน 2558 ด้วย และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดข้อบกพร่องขึ้นได้
การมุ่งเน้นการสืบสวน ตรวจสอบและติดตามพฤติการณ์เจ้าของเรือ ผู้ประกอบการเรือประมงที่ใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ และแรงงานค้ามนุษย์ หากพบการกระทำผิดให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกราย ขณะที่ในการดำเนินคดี หากพบว่าพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ให้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าวอีกส่วนหนึ่งด้วย รวมตลอดถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนทุกฉบับ
ส่วนพนักงานสอบสวน ต้องทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความละเอียด รอบคอบ รัดกุม และเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้การนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การเร่งรัดการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับในคดีความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แต่ละหน่วยมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดรับผิดชอบสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับแต่ละหมายอย่างชัดเจน และรายงานความคืบหน้าให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกระยะ
นอกจากนี้ ต้องมีการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของธุรกิจ นายหน้า นายทุน ผู้ให้การสนับสนุน ผู้นำพา ผู้ให้ที่พักพิง และเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง
ส่วนผู้ใช้แรงงานที่เป็นเหยื่อจากการกระทำความผิด ต้องได้รับความช่วยเหลือและคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ระดมสรรพกำลัง เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยให้มีการสนธิกำลังและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และสำหรับในห้วงเดือนธันวาคม 2558 - มกราคม 2559 ให้เพิ่มความเข้มในการดำเนินการเป็นพิเศษเพื่อให้ปรากฏผลชัดเจน เป็นรูปธรรมมากที่สุด
นอกจากนี้ กำชับข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในสังกัด มิให้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ จากผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการค้ามนุษย์เป็นอันขาด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางอาญา วินัย และทางปกครองอย่างเด็ดขาด และหากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย ไม่สนใจตรวจสอบ สืบสวนปราบปรามจับกุม ให้พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เมษายน 2558 ด้วย และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดข้อบกพร่องขึ้นได้