สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 37.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. ร่วงลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 62.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 220.5 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 661,000 บาร์เรล สู่ระดับ 151.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% สู่ระดับ 91.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน รายงานเมื่อวานนี้ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่มีการใช้งาน ปรับตัวลดลง 3 แท่น สู่ระดับ 538 แท่นในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 37.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. ร่วงลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 62.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 220.5 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 661,000 บาร์เรล สู่ระดับ 151.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% สู่ระดับ 91.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน รายงานเมื่อวานนี้ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่มีการใช้งาน ปรับตัวลดลง 3 แท่น สู่ระดับ 538 แท่นในสัปดาห์นี้
