xs
xsm
sm
md
lg

ผบก.ภ.ชัยภูมิ สั่งให้ ด.ต.ใช้รถตราโล่ขนซากกระทิงป่าออกจากราชการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ตั้งด่านสกัดจับรถต้องสงสัย พบรถสายตรวจของตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธรคอนสาร จ.ชัยภูมิ สีแดงเลือดหมู่-ขาว ติดตราโล่ ซึ่งบรรทุกเรือมาด้วย 2 ลำ เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจ จึงพบ ด.ต.มงคล บุญมาตุ่น อายุ 47 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรคอนสาร เป็นคนขับ และนายปรีชา ปราบพรรณ นั่งข้างๆ ตรวจสอบภายในรถพบมีถุงบรรจุเนื้อกระทิงป่าที่ถูกชำแหละ 8 ถุง น้ำหนัก 246 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำส่งตำรวจภูธรห้วยยาง โดยทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า เมื่อเย็นวันที่ 1 ธ.ค. ด.ต.มงคล ได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มนายทุนแก๊งพรานป่ารายหนึ่ง ที่ยังไม่ยอมบอกว่าเป็นใครว่าจ้างให้ไปขนเนื้อกระทิง ที่บริเวณทิศเหนือเขื่อนจุฬาภรณ์ โดยนายทุนบอกว่า ลูกน้องที่เป็นพรานป่ายิงกระทิงที่ลงมากินน้ำในเขื่อนได้ 1 ตัว พร้อมชำแหละแยกชิ้นส่วนใส่ถุงไว้ให้แล้ว ขอให้ไปรับของและบรรทุกเรือมาส่งให้ที่ท่าน้ำในเขตเขื่อนจุฬาภรณ์ ตนเองจึงให้นายปรีชา ที่เป็นพรานป่าชำนาญทางนำรถสายตรวจเข้าไปดักรอรับเนื้อกระทิง ไปส่งให้กับกลุ่มนายทุนเพื่อนำไปขายต่อ โดยตนเองจะได้รับเงินค่าจ้าง 3,000 บาท และได้ส่วนแบ่งเป็นเนื้อกระทิงไปกินอีกส่วนหนึ่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวมุ่งหวังนำเนื้อมากินและขาย รวมถึงต้องการตัดหัวกระทิงเพราะมีเขาสวยงาม โดยเป็นกระทิงจ่านำฝูงเพศผู้ อายุกว่า 10 ปี และมีเนื้อหนักไม่น้อยกว่า 800-1,000 กิโลกรัม คาดว่ามีราคาหลายหมื่นบาท
ทั้งนี้ ตำรวจได้ตั้งข้อหา 3 ข้อ คือ ล่าสัตว์คุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีซากสัตว์คุ้มครองโดยผิดกฎหมาย และมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ จากสอบสวนทราบว่า มีพรานป่าอีก 2 คน เข้ามายิงกระทิงในพื้นที่และหลบหนีไป โดยมีหลักฐานจากเรือทั้ง 2 ลำ ที่ยึดมาได้โดยมีทะเบียนว่าเป็นของใคร ซึ่งจะเรียกตัวมาสอบสวนขยายผลต่อไป ด้านเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำครั้งแรก เพราะพบมีกลุ่มพรานป่าในพื้นที่จำนวนมากที่ทำทีออกมาหาปลาในเขื่อน และเมื่อเห็นสัตว์ออกจากป่าเพื่อลงมากินน้ำจะพากันดักซุ่มยิง และโทรศัพท์บอกกลุ่มนายทุนให้มาขนเนื้อไปขายและแบ่งประโยชน์กัน
ขณะที่ผู้บังคับตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ มีคำสั่งให้ ด.ต.มงคล ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยร้ายแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น