จากกรณีที่มีฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง กระจายทุกอำเภอในจ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ (29 พ.ย.) ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังและลมกระโชกแรง โดยเฉพาะอ.นบพิตำ วัดปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดได้ 163 มิลลิเมตร อ.ท่าศาลา 144 มิลลิเมตร อ.พระพรหม 120 มิลลิเมตร
ขณะที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 7 นครศรีธรรมราช เฝ้าระวังและประกาศเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่มใน "ระดับสีแดง" หรือเสี่ยงภัยสูงสุด ที่ต.นบพิตำ ต.นาเหรง อ.นบพิตำ ต.เขาน้อย อ.สิชล และเตือนภัยใน ระดับสีเหลือง ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ฝนที่ตกหนัก ยังเข้าท่วมถนนหลายสายในพื้นที่หมู่ 8 บ้านทับน้ำเต้า ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จนรถสัญจรเข้าออกไม่ได้ส่วนถนนทางหลวงเลียบชายทะเลสายปากพนัง-หัวไทร ถูกคลื่นทะเลซัดเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง และมีบ้านเรือนประชาชนส่วนหนึ่งได้ความเสียหายจากน้ำท่วมและกระแสคลื่น ขณะนี้แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช 1 เข้าซ่อมถนนส่วนที่ชำรุด และจัดกำลังเฝ้าอำนวยความสะดวก 24 ชั่วโมง
ขณะที่ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 7 นครศรีธรรมราช เฝ้าระวังและประกาศเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่มใน "ระดับสีแดง" หรือเสี่ยงภัยสูงสุด ที่ต.นบพิตำ ต.นาเหรง อ.นบพิตำ ต.เขาน้อย อ.สิชล และเตือนภัยใน ระดับสีเหลือง ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ฝนที่ตกหนัก ยังเข้าท่วมถนนหลายสายในพื้นที่หมู่ 8 บ้านทับน้ำเต้า ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จนรถสัญจรเข้าออกไม่ได้ส่วนถนนทางหลวงเลียบชายทะเลสายปากพนัง-หัวไทร ถูกคลื่นทะเลซัดเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง และมีบ้านเรือนประชาชนส่วนหนึ่งได้ความเสียหายจากน้ำท่วมและกระแสคลื่น ขณะนี้แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช 1 เข้าซ่อมถนนส่วนที่ชำรุด และจัดกำลังเฝ้าอำนวยความสะดวก 24 ชั่วโมง