ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กทท.ได้จัดเสวนาระดมความคิดเห็นการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังอย่างยั่งยืน เพื่อนำเสนอข้อมูลแผนการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม โดยรอบท่าเรือแหลมฉบังโดยเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็น
ทั้งนี้ กทท.ได้นำเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังระยะเวลา 5 ปี โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบังปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง และจัดหาเครื่องมือยกขน คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการได้ภายใน 2561 รองรับตู้สินค้าได้ 300,000 TEU ต่อปี โครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ (Rail Transfer Terminal) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการท่าเทียบเรือยกตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2561 และจะพัฒนาโครงการระยะที่ 2 ประมาณปี 2564-2565 โครงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบัง โดยเพิ่มช่องทางผ่านประตูตรวจสอบสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีจำนวนช่องทางผ่านประตูตรวจสอบสินค้ารวม 31 ช่องทาง รองรับปริมาณตู้สินค้าได้ที่ระดับ 10-11 ล้าน TEU ต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะยาว
ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับการยอมรับให้เป็นท่าเรือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2557 ท่าเรือแหลมฉบัง มีตู้สินค้าผ่านมากที่สุดถึง 6.45 ล้าน TEU ถือเป็นอันดับที่ 23 ของโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี ส่งผลให้ในปี 2565 จะมีปริมาณสินค้าสูงถึง 9 ล้าน TEU หากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบท่าเรือแล้วเสร็จในปี 2564 ท่าเรือแหลมฉบัง จะสามารถรองรับการขยายตัวได้ และที่สำคัญท่าเรือแหลมฉบัง จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และศูนย์กลางลอจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
ทั้งนี้ กทท.ได้นำเสนอสาระสำคัญเกี่ยวกับแผนการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังระยะเวลา 5 ปี โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบังปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง และจัดหาเครื่องมือยกขน คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการได้ภายใน 2561 รองรับตู้สินค้าได้ 300,000 TEU ต่อปี โครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ (Rail Transfer Terminal) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการท่าเทียบเรือยกตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2561 และจะพัฒนาโครงการระยะที่ 2 ประมาณปี 2564-2565 โครงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบัง โดยเพิ่มช่องทางผ่านประตูตรวจสอบสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีจำนวนช่องทางผ่านประตูตรวจสอบสินค้ารวม 31 ช่องทาง รองรับปริมาณตู้สินค้าได้ที่ระดับ 10-11 ล้าน TEU ต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะยาว
ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับการยอมรับให้เป็นท่าเรือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2557 ท่าเรือแหลมฉบัง มีตู้สินค้าผ่านมากที่สุดถึง 6.45 ล้าน TEU ถือเป็นอันดับที่ 23 ของโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี ส่งผลให้ในปี 2565 จะมีปริมาณสินค้าสูงถึง 9 ล้าน TEU หากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบท่าเรือแล้วเสร็จในปี 2564 ท่าเรือแหลมฉบัง จะสามารถรองรับการขยายตัวได้ และที่สำคัญท่าเรือแหลมฉบัง จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และศูนย์กลางลอจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
