นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีขยะทิ้งในทะเลจัดอยู่ในลำดับที่6 ของโลก รองจากประเทศจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและศรีลังกาตามลำดับ ดังนั้นขยะพลาสติกและโฟมจึงเป็นปัญหาสำคัญ เพราะการย่อยสลายใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโฟมจะใช้เวลาย่อยสลายกว่า 450 ปี และปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยว ทั้งบนบกและในทะเล ถ้ามีปริมาณขยะที่เกิดจากกระทงไหลลงสู่ทะเล จะส่งผลกระทบต่อปริมาณขยะที่สะสมอยู่ในทะเลให้มีมากขึ้นซึ่งล่าสุด ในการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษจัดทำแผนจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้ภาคส่วนต่างร่วมบูรณาการจัดการปัญหานี้เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี และใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
นายวิจารย์ กล่าวอีกว่า เทศกาลลอยกระทงในปีนี้ กรมควบคุมมลพิษจึงขอเขิญชวนประชาชนลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้ วัสดุลอยกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ใช้วัสดุที่หาง่าย ราคาถูก เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ และเมื่อเก็บขึ้นมาก็นำไปจัดการได้ง่าย เช่น กาบกล้วย ดอกไม้ และใบตอง เป็นต้น ซึ่งยังเป็นวัสดุที่เหมาะสม จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากโฟมและพลาสติก รวมถึงกระทงจากขนมปัง หากอยู่ในแหล่งน้ำปิด ได้แก่ สระน้ำในวัด หนองน้ำ หรือแม่น้ำลำคลองที่มีความสกปรกเดิมอยู่แล้ว เพราะขนมปังเป็นสารอินทรีย์ที่จะยิ่งทำให้น้ำเสียเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อลดปัญหามลพิษที่จะเกิดกับแหล่งน้ำในระยะต่อไป กรมควบคุมมลพิษจึงขอความร่วมมือจากประชาชนใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางในการลอยกระทงโดยใช้หลักการ3Rเพื่อลดการใช้ หาวิธีการกำจัด หรือนำกลับมาใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งประกอบด้วย 1.ใช้น้อย (Reduce)การลดขนาดของกระทงที่ใช้ ลดจำนวน "1ครอบครับ1กระทง" 2.ใช้ซ้ำ (Reuse)การวัสดุซ้ำ ใช้วัสดุเหลือใช้ทำกระทง และ3.แปรรูปใช้ใหม่ (Recycle)
นายวิจารย์ กล่าวอีกว่า เทศกาลลอยกระทงในปีนี้ กรมควบคุมมลพิษจึงขอเขิญชวนประชาชนลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้ วัสดุลอยกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ใช้วัสดุที่หาง่าย ราคาถูก เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ และเมื่อเก็บขึ้นมาก็นำไปจัดการได้ง่าย เช่น กาบกล้วย ดอกไม้ และใบตอง เป็นต้น ซึ่งยังเป็นวัสดุที่เหมาะสม จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากโฟมและพลาสติก รวมถึงกระทงจากขนมปัง หากอยู่ในแหล่งน้ำปิด ได้แก่ สระน้ำในวัด หนองน้ำ หรือแม่น้ำลำคลองที่มีความสกปรกเดิมอยู่แล้ว เพราะขนมปังเป็นสารอินทรีย์ที่จะยิ่งทำให้น้ำเสียเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อลดปัญหามลพิษที่จะเกิดกับแหล่งน้ำในระยะต่อไป กรมควบคุมมลพิษจึงขอความร่วมมือจากประชาชนใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางในการลอยกระทงโดยใช้หลักการ3Rเพื่อลดการใช้ หาวิธีการกำจัด หรือนำกลับมาใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งประกอบด้วย 1.ใช้น้อย (Reduce)การลดขนาดของกระทงที่ใช้ ลดจำนวน "1ครอบครับ1กระทง" 2.ใช้ซ้ำ (Reuse)การวัสดุซ้ำ ใช้วัสดุเหลือใช้ทำกระทง และ3.แปรรูปใช้ใหม่ (Recycle)