เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ นายคนึง ฦาไชย ที่ปรึกษาอาวุโสกิตติมศักดิ์ สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าวร่วมกับ นายพงษ์สวัสดิ์ อักษรสวาสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมสิทธิมนุษยชน นายพนิต ภู่จินดา ผู้เชี่ยวชาญด้านการผังเมือง นางสุดารา สุจฉายา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประวัติศาสตร์ชุมชน และนางปองขวัญ ลาซูส ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม เรื่องการยื่นจดหมายต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนโครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีภาคีเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมเข้าร่วม
นายคนึง ฦาไชย กล่าวว่า เนื่องจากตามที่รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงสะพานพระราม 7 ระยะทางรวม 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการทำงานอย่างเร่งรีบ ทางสยามสมาคมฯจึงได้มีการจัดประชุมรับฟังข้อเท็จจริงและความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อจัดทำจดหมายเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบในหลายด้านทั้ง ด้านกฎหมายและผังเมือง ด้านภูมิทัศน์ วัฒนธรรม ด้านผลกระทบที่มีต่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมหวังให้เกิดประกาศกฎกระทรวงผังเมืองเฉพาะ เพื่อที่จะบังคับใช้ได้อย่างชัดเจน จึงขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนโครงการดังกล่าวอย่างละเอียด และรอบคอบก่อนดำเนินงานโครงการต่อไป
นายพงษ์สวัสดิ์ อักษรสวาสดิ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอาจผิดต่อกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 และพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2548 รวมถึงพ.ร.บ. อีกหลายฉบับที่ให้อำนาจหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลรักษาทางน้ำที่ชายตลิ่ง ที่สาธารณะโบราณสถานและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งหากจะมีการดำเนินงานโครงการดังกล่าว กทม.ต้องขอแก้ไขผังเมืองรวมให้เป็นไปตามกระบวนการและกลไกทางผังเมือง และต้องผ่านการยอมรับจากประชาชนก่อน ถึงจะถูกต้องตามกฎหมายและตามประกาศกฎกระทรวงผังเมืองรวม กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556
ด้านนายพนิต ภู่จินดา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานก่อสร้างของสำนักการโยธา กทม. ซึ่งมีรูปแบบเดียวกันตลอดสองฝั่งแนวแม่น้ำระยะทาง 14 กิโลเมตร จึงมีความคิดว่าไม่ควรเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ควรมีแผนการอนุรักษ์ สงวน พัฒนาพื้นที่ให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่อีกทั้งความสูงของเขื่อนยังกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน
นางปองขวัญ กล่าวว่า ไม่ควรนำแนวคิดหรือทำโครงการตามประเทศอื่นเนื่องจากภูมิทัศน์วัฒนธรรมภูมิอากาศ และความสัมพันธ์ของคนไทย แตก ต่างจากเมืองอื่นการทำโครงการใดก็ตาม ต้องมีการตั้งโจทย์ที่ดีไม่ลดทอนคุณค่ามรดกของเดิม รัฐบาลควรเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งสร้างช่องทางให้ข้อมูลแก่ประชาชน
ตลอดระยะเวลาเพื่อแสดงความโปร่งใส นอกจากนี้รัฐบาลไม่ควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างทางสาธารณะขนาดใหญ่แต่ควรมุ่งให้เป็นโครงการฟื้นฟูที่ริมน้ำเจ้าพระยา จากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยพิจารณาทำโครงการในพื้นที่สาธารณะของราชการที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำอยู่แล้ว
ทั้งนี้ทางสยามสมาคมและภาคีเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไม่ได้มีเจตนาคัดค้าน หรือหยุดยั้งการพัฒนาโครงการพัฒนาพื้นที่รินแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ขอให้รัฐบาลเห็นความสำคัญจากผลกระทบและให้พิจารณาทบทวนโครงการให้ละเอียดถี่ถ้วนและรอบด้านมากยิ่งขึ้น
นายคนึง ฦาไชย กล่าวว่า เนื่องจากตามที่รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงสะพานพระราม 7 ระยะทางรวม 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการทำงานอย่างเร่งรีบ ทางสยามสมาคมฯจึงได้มีการจัดประชุมรับฟังข้อเท็จจริงและความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อจัดทำจดหมายเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบในหลายด้านทั้ง ด้านกฎหมายและผังเมือง ด้านภูมิทัศน์ วัฒนธรรม ด้านผลกระทบที่มีต่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมหวังให้เกิดประกาศกฎกระทรวงผังเมืองเฉพาะ เพื่อที่จะบังคับใช้ได้อย่างชัดเจน จึงขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนโครงการดังกล่าวอย่างละเอียด และรอบคอบก่อนดำเนินงานโครงการต่อไป
นายพงษ์สวัสดิ์ อักษรสวาสดิ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอาจผิดต่อกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 และพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2548 รวมถึงพ.ร.บ. อีกหลายฉบับที่ให้อำนาจหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลรักษาทางน้ำที่ชายตลิ่ง ที่สาธารณะโบราณสถานและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งหากจะมีการดำเนินงานโครงการดังกล่าว กทม.ต้องขอแก้ไขผังเมืองรวมให้เป็นไปตามกระบวนการและกลไกทางผังเมือง และต้องผ่านการยอมรับจากประชาชนก่อน ถึงจะถูกต้องตามกฎหมายและตามประกาศกฎกระทรวงผังเมืองรวม กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556
ด้านนายพนิต ภู่จินดา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานก่อสร้างของสำนักการโยธา กทม. ซึ่งมีรูปแบบเดียวกันตลอดสองฝั่งแนวแม่น้ำระยะทาง 14 กิโลเมตร จึงมีความคิดว่าไม่ควรเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ควรมีแผนการอนุรักษ์ สงวน พัฒนาพื้นที่ให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่อีกทั้งความสูงของเขื่อนยังกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน
นางปองขวัญ กล่าวว่า ไม่ควรนำแนวคิดหรือทำโครงการตามประเทศอื่นเนื่องจากภูมิทัศน์วัฒนธรรมภูมิอากาศ และความสัมพันธ์ของคนไทย แตก ต่างจากเมืองอื่นการทำโครงการใดก็ตาม ต้องมีการตั้งโจทย์ที่ดีไม่ลดทอนคุณค่ามรดกของเดิม รัฐบาลควรเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งสร้างช่องทางให้ข้อมูลแก่ประชาชน
ตลอดระยะเวลาเพื่อแสดงความโปร่งใส นอกจากนี้รัฐบาลไม่ควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างทางสาธารณะขนาดใหญ่แต่ควรมุ่งให้เป็นโครงการฟื้นฟูที่ริมน้ำเจ้าพระยา จากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยพิจารณาทำโครงการในพื้นที่สาธารณะของราชการที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำอยู่แล้ว
ทั้งนี้ทางสยามสมาคมและภาคีเครือข่ายอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไม่ได้มีเจตนาคัดค้าน หรือหยุดยั้งการพัฒนาโครงการพัฒนาพื้นที่รินแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ขอให้รัฐบาลเห็นความสำคัญจากผลกระทบและให้พิจารณาทบทวนโครงการให้ละเอียดถี่ถ้วนและรอบด้านมากยิ่งขึ้น