ภาคเอกชนจัดประกวดร้องเพลง “เทิดไท้แม่แห่งแผ่นดิน”

กาฬสินธุ์ - บริษัทไนน์ คอเปอร์เรชั่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีในมือถือ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จัดการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง พร้อมประกวดแดนเซอร์ เปิดเวทีให้เยาวชนได้แสดงออกถูกที่ ถูกต้อง และเหมาะสม และส่งเสริมให้เยาวชนได้ร่วมอนุรักษ์การร้องเพลงลูกทุ่ง มรดกวัฒนธรรมของประเทศไทย

ที่หอศิลปวัฒนธรรม วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ นางนภัสสร มงคลบวรรัตน์ มารดาของประธานบริษัท ไนน์ คอเปอร์เรชั่น จำกัด เป็นประธานเปิดการจัดกิจกรรมเทิดไท้แม่แห่งแผ่นดิน ที่ได้เปิดเวทีให้เยาวชนได้เข้าร่วมแข่งขันการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย พร้อมแดนเซอร์ในโครงการประกวด ไนน์ คอเปอร์เรชั่น แฟร์ ครั้งที่ 1 ที่เป็นการจัดกิจกรรมสานฝันเด็กไทยใช้เทคโนโลยี ชี้นำความสำเร็จ เน้นความเป็นไทย เทิดไท้แม่แห่งแผ่นดิน โดยมีวงดนตรีลูกทุ่งจากทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก

ว่าที่ ร.ต.หญิงธารีรัตน์ โลหะพรหม รองผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไนน์ คอเปร์เรชั่น จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานในวันนี้เป็นกิจกรรมทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชนชาวไทยทั้งผอง โดยกิจกรรมที่เกิดขึ้นจะเป็นการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย พร้อมแดนเซอร์ สื่อถึงความเป็นไทยแม้จะอยู่ในยุคดิจิตอล และยุคเทคโนโลยี ถือเป็นตัวแทนภาคเอกชนที่พร้อมจะร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และมรดกของชาติไทยให้คงอยู่สืบต่อไป

โดยผู้ชนะเลิศการประกวดจะได้รับรางวัลเงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศ เงินสด 6,000 บาท 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลตามลำดับ พร้อมรางวัลขวัญใจประชาชน

ว่าที่ ร.ต.หญิงธารีรัตน์ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทมุ่งเป้าที่จะทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่จะไม่ส่งผลเสีย หรือผลกระทบต่อวัยรุ่น จึงเกิดเป็นกิจกรรมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทยขึ้นมา โดยหวังและต้องการให้เยาวชนไทยได้แสดงออกในทางที่ถูกต้อง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เพื่อที่จะนำพาชีวิตให้ห่างไกลจากยาเสพติด และร่วมเป็นพลังในการสืบสานอนุรักษ์เพลงลูกทุ่งไทยด้วย

ขณะที่การเติบโตของบริษัท ไนน์คอเปอร์เรชั่น จำกัด ที่เป็นผู้ประกอบการ และให้บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ เน้นอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกเครือข่ายในการทำธุรกรรมออนไลน์ทุกประเภท

ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่เป็นการให้บริการชำระบิล และสาธารณูปโภคต่างๆ แบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง การให้บริการเติมเงินระบบมือถือ และรวมถึงการใช้บริการโรงแรมที่พัก ร้านอาหารในกลุ่มเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ

ซึ่งยังเป็นการรองรับการเติบโตภาคธุรกิจในยุคอาเซียน และการเติบโตของเทคโนโลยีที่เน้นความสะดวกคล่องตัว เพราะสามารถดำเนินธุรกรรมต่างๆ ได้จากสมาร์ทโฟน และไม่ต้องพกบัตรเครดิต หรือเงินสดติดตัว แต่สามารถเที่ยว พักผ่อน รับประทานอาหารได้อย่างสะดวกปลอดภัย

“ขณะนี้บริษัทฯ มีสมาชิกเครือข่ายที่แล้วกว่า 300,000 คน ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของบริษัทฯ ที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคธุรกิจยุคดิจิตอลที่กำลังจะเข้าสู่อาเซียน” รองผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าว