ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.16 จุด พุ่งขึ้น 247.66 จุด หรือ +1.42% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 5,075.20 จุด เพิ่มขึ้น 89.19 จุด หรือ +1.79% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,083.58 จุด เพิ่มขึ้น 33.14 จุด หรือ +1.62%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 27-28 ต.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ประสานเสียงสับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ได้ย้ำจุดยืนว่า เหตุผลในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีน้ำหนักมากขึ้นในปีนี้ และขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงภาวะดังกล่าว ขณะที่นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวย้ำมุมมองเดิมที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขณะนี้สามารถปรับตัวรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบันสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ส่วนนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก แสดงความคาดหวังว่า ตลาดจะปรับตัวได้ดีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นหลักฐานแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง
การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2.4% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร KBW Bank Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดราคาหุ้นธนาคารรายใหญ่ 24 ตัวนั้น ปรับตัวขึ้น 2.1%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3.17% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล ส่วนหุ้นแฟร์ไชล์ด เซมิคอนดัคเตอร์ และหุ้นพีเอ็มซี-เซียร์รา ปรับตัวขึ้นราว 1.9% ขณะที่หุ้น Amazon.com และหุ้นเนทฟลิกซ์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3%
หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.29% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 86 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 76 เซนต์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,737.16 จุด พุ่งขึ้น 247.66 จุด หรือ +1.42% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 5,075.20 จุด เพิ่มขึ้น 89.19 จุด หรือ +1.79% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,083.58 จุด เพิ่มขึ้น 33.14 จุด หรือ +1.62%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 27-28 ต.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนหน้า
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดต่างก็ประสานเสียงสับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ได้ย้ำจุดยืนว่า เหตุผลในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีน้ำหนักมากขึ้นในปีนี้ และขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงภาวะดังกล่าว ขณะที่นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวย้ำมุมมองเดิมที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขณะนี้สามารถปรับตัวรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบันสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ส่วนนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก แสดงความคาดหวังว่า ตลาดจะปรับตัวได้ดีต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นหลักฐานแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง
การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2.4% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร KBW Bank Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดราคาหุ้นธนาคารรายใหญ่ 24 ตัวนั้น ปรับตัวขึ้น 2.1%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3.17% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิล ส่วนหุ้นแฟร์ไชล์ด เซมิคอนดัคเตอร์ และหุ้นพีเอ็มซี-เซียร์รา ปรับตัวขึ้นราว 1.9% ขณะที่หุ้น Amazon.com และหุ้นเนทฟลิกซ์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3%
หุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.29% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 86 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 76 เซนต์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board