เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 58 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 63 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์ จำเลยที่ 129 ในคดี รื้อบาร์เบียร์ซอยสุขุมวิท10 หมายเลขแดงที่3220/25549 ได้เข้ารายงานตัวต่อศาลตามคำสั่ง เนื่องจากได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน
โดยศาลได้สอบถามนายชูวิทย์แล้ว นายชูวิทย์แถลงต่อศาลว่า เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของจำเลยเองที่ไม่ได้ตรวจสอบคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก่อน และขอรับรองต่อศาลว่าหากตัวจำเลยจะมีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อน มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน เหตุที่ตัวจำเลยเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อไปเยี่ยมบุตร โดยเมื่อตัวจำเลยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเวลา 02.00 น.ก็มารายงานตัวทันที จำเลยไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนคำสั่งศาล ขอศาลให้โอกาสจำเลยได้ประกันตัวอีกครั้ง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า วันนี้จำเลยที่ 129 พร้อมนายประกันได้มารายงานตัวต่อศาลทันทีที่จำเลยเดินทางกลับเข้ามาราชอาณาจักรทั้งพฤติการณ์ที่ผ่านมาจำเลยเดินทางมาศาลตามนัด เชื่อว่าจำเลยที่ 129 ไม่มีเจตนาผิดสัญญาประกัน จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและ กำหนดเงื่อนไขในคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวเพิ่มเติมว่า ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน และให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
สำหรับคดีรื้อบาร์เบียร์นั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้กำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 28 มกราคม 2559
ขณะที่การเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาของนาย ชูวิทย์ ได้ปรากฏผ่านสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ว่า นายชูวิทย์พูดผ่านสื่อว่า คงใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเหตุให้มีการวิเคราะห์ว่านายชูวิทย์เตรียมหนีคดี ซึ่งภายหลังเป็นข่าว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายประกันของนายชูวิทย์ก็ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาล ว่าเป็นความเลินเล่อของนายประกันและจำเลยที่ 129 ที่มิได้ตรวจสอบก่อนว่าได้รับรองต่อศาลว่าหากจำเลยจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจะต้องขออนุญาตศาลก่อน มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
ทั้งนี้ ศาลได้ปล่อยชั่วคราวจำเลยอีกครั้ง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งในคำร้องดังกล่าวให้นายประกันส่งตัวนายชูวิทย์จำเลยภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.ก่อนที่นายชูวิทย์จะเดินทางมารายงานตัวต่อศาลเมื่อวานนี้
โดยศาลได้สอบถามนายชูวิทย์แล้ว นายชูวิทย์แถลงต่อศาลว่า เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของจำเลยเองที่ไม่ได้ตรวจสอบคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก่อน และขอรับรองต่อศาลว่าหากตัวจำเลยจะมีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อน มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน เหตุที่ตัวจำเลยเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อไปเยี่ยมบุตร โดยเมื่อตัวจำเลยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเวลา 02.00 น.ก็มารายงานตัวทันที จำเลยไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนคำสั่งศาล ขอศาลให้โอกาสจำเลยได้ประกันตัวอีกครั้ง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า วันนี้จำเลยที่ 129 พร้อมนายประกันได้มารายงานตัวต่อศาลทันทีที่จำเลยเดินทางกลับเข้ามาราชอาณาจักรทั้งพฤติการณ์ที่ผ่านมาจำเลยเดินทางมาศาลตามนัด เชื่อว่าจำเลยที่ 129 ไม่มีเจตนาผิดสัญญาประกัน จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและ กำหนดเงื่อนไขในคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวเพิ่มเติมว่า ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน และให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
สำหรับคดีรื้อบาร์เบียร์นั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้กำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 28 มกราคม 2559
ขณะที่การเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาของนาย ชูวิทย์ ได้ปรากฏผ่านสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ว่า นายชูวิทย์พูดผ่านสื่อว่า คงใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเหตุให้มีการวิเคราะห์ว่านายชูวิทย์เตรียมหนีคดี ซึ่งภายหลังเป็นข่าว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายประกันของนายชูวิทย์ก็ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาล ว่าเป็นความเลินเล่อของนายประกันและจำเลยที่ 129 ที่มิได้ตรวจสอบก่อนว่าได้รับรองต่อศาลว่าหากจำเลยจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจะต้องขออนุญาตศาลก่อน มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
ทั้งนี้ ศาลได้ปล่อยชั่วคราวจำเลยอีกครั้ง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งในคำร้องดังกล่าวให้นายประกันส่งตัวนายชูวิทย์จำเลยภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.ก่อนที่นายชูวิทย์จะเดินทางมารายงานตัวต่อศาลเมื่อวานนี้
