ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ หลังถูกคำสั่งย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 58 มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจาก พล.ต.ต.ปวีณ ทราบข้อมูลว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะไม่ยับยั้งการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ จึงตัดสินใจที่จะเดินทางออกนอกประเทศพร้อมกับครอบครัว ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ต.ปวีณ นอกจากเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาแล้ว ยังเป็นพยานปากสำคัญที่จะต้องเบิกคำให้การในศาล เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาอีกด้วย แต่เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ต้องไปเป็นรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. พล.ต.ต.ปวีณ จึงตัดสินใจลาออกจากราชการทันที เพราะคคีค้ามนุษย์โรฮีนจามีการออกหมายจับทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นหลายราย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาเกิดความโกรธแค้น อีกทั้งในคดีนี้มีผู้ต้องหาบางรายที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 58 มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจาก พล.ต.ต.ปวีณ ทราบข้อมูลว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะไม่ยับยั้งการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ จึงตัดสินใจที่จะเดินทางออกนอกประเทศพร้อมกับครอบครัว ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ต.ปวีณ นอกจากเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาแล้ว ยังเป็นพยานปากสำคัญที่จะต้องเบิกคำให้การในศาล เพื่อเอาผิดกับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาอีกด้วย แต่เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ต้องไปเป็นรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. พล.ต.ต.ปวีณ จึงตัดสินใจลาออกจากราชการทันที เพราะคคีค้ามนุษย์โรฮีนจามีการออกหมายจับทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่นหลายราย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาเกิดความโกรธแค้น อีกทั้งในคดีนี้มีผู้ต้องหาบางรายที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่