นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าแนวคิดของ กรธ. เรื่องการเปิดชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง เป็นการปูทางให้อำนาจนอกระบบ ว่า ขอให้กลับไปอ่านคำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ที่ชี้แจงสื่อมวลชนโดยละเอียด เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่มีสาระว่า 1.กรธ.ไม่ได้เป็นผู้เสนอชื่อของบุคคลที่จะมาเป็นนายรัฐมนตรี แต่ที่ให้ระบุชื่อก็เพื่อเป็นการบอกกล่าวให้สังคม หรือประชาชนได้รับทราบว่าแต่ละพรรคการเมืองจะเสนอให้ใครขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เสนอได้ไม่เกิน 5 ชื่อ 2.หากพรรคการเมืองต่าง ๆ เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่เสนอชื่อคนนอก หรือผู้ที่ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ก็จะไม่มีคนนอกขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี 3. เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรที่จะเลือกบุคคลใดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกี่ยวกับ กรธ. เราเพียงทำหน้าที่ตอบโจทย์ให้ประชาชนรู้ตามสิทธิว่าใครจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หากพรรคการเมืองนั้นชนะเลือกตั้ง ฉะนั้นหากพรรคการเมืองเสนอชื่อคนที่ได้รับเลือกตั้งทั้งหมดเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีใครแทรกแซงได้ ขอให้ดูให้ครบถ้วนก่อน
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุในลักษณะขู่ว่าจะรณรงค์ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านการทำประชามตินั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ตนคงไม่ตอบโต้ใด ๆ แต่อยากถามกลับเช่นกันว่า ถ้าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการบัญญัติให้มีการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน ยังจะคิดจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่
ทั้งนี้ นายนรชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่าถ้าพรรค หรือตัวเองได้ประโยชน์ ก็จะไม่มีใครคัดค้านในการออกกฎหมายต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ขอให้ดูผลสำรวจโพลต่าง ๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับการปฏิรูป การวางระบบเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น ส่วนคำตอบนั้นขึ้นอยู่ที่ประชาชนต้องคิดกันเองว่าจะเลือกอย่างไร
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุในลักษณะขู่ว่าจะรณรงค์ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านการทำประชามตินั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ตนคงไม่ตอบโต้ใด ๆ แต่อยากถามกลับเช่นกันว่า ถ้าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการบัญญัติให้มีการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน ยังจะคิดจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่
ทั้งนี้ นายนรชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่าถ้าพรรค หรือตัวเองได้ประโยชน์ ก็จะไม่มีใครคัดค้านในการออกกฎหมายต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ขอให้ดูผลสำรวจโพลต่าง ๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับการปฏิรูป การวางระบบเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น ส่วนคำตอบนั้นขึ้นอยู่ที่ประชาชนต้องคิดกันเองว่าจะเลือกอย่างไร