นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรววพาณิชย์ กล่าวว่า คณะผู้นำเข้าข้าวจากสิงคโปร์หลังจากชมพื้นที่การผลิตข้าวในจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ตกลงซื้อข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ 2558/59 จากไทยปริมาณรวม 22,000 ตัน มูลค่ารวม 720 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้าวหอมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และยังมีความสนใจข้าวเหนียวของไทยอีก 2,000 ตัน แต่สิงคโปร์ยังเห็นว่าราคาข้าวเหนียวของไทยมีราคาสูงเกินไป จึงไม่สามารถสรุปการซื้อขายได้ และจะมีการหารือเพื่อเจรจาต่อรองให้ได้ราคาที่ดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2556 ปริมาณ 126,013 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,993 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมามีปริมาณ 162,577 ตัน คิดเป็นมูลค่า 5,766 ล้านบาท และในปีนี้มีการนำเข้าข้าวไทยแล้วกว่า 99,216 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,778 ล้านบาท ส่วนราคาข้าวเหนียวขาว 10% ราคาส่งออก (เอฟโอบี) ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน ตันละ 776 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากราคา ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ตันละ 803 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนราคาข้าวหอมมะลิชั้น 1 ปี 57/58 ตันละ 842 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 850 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยกระทรวงพาณิชย์กำหนดแผนการผลักดันการส่งออกข้าวปี 2559 โดยตั้งเป้าหมายจะเร่งทำตลาดข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่รองรับผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาดให้มาก พร้อมทั้งดูแลราคาข้าวไม่ให้ตกลง แต่จากที่ได้รับรายงานพบว่า ยังมีหลายตลาดมีแผนการนำเข้าลดลง เนื่องประเทศผู้ปลูกข้าวมีราคาต่ำกว่าข้าวไทย ดังนั้น จะร่วมกับภาคเอกชนเร่งหาตลาดอื่นทดแทนกันต่อไป เพราะชื่อว่าคุณภาพข้าวไทยดีกว่าหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์นำเข้าข้าวจากไทยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2556 ปริมาณ 126,013 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,993 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมามีปริมาณ 162,577 ตัน คิดเป็นมูลค่า 5,766 ล้านบาท และในปีนี้มีการนำเข้าข้าวไทยแล้วกว่า 99,216 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,778 ล้านบาท ส่วนราคาข้าวเหนียวขาว 10% ราคาส่งออก (เอฟโอบี) ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน ตันละ 776 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากราคา ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ตันละ 803 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนราคาข้าวหอมมะลิชั้น 1 ปี 57/58 ตันละ 842 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 850 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยกระทรวงพาณิชย์กำหนดแผนการผลักดันการส่งออกข้าวปี 2559 โดยตั้งเป้าหมายจะเร่งทำตลาดข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่รองรับผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาดให้มาก พร้อมทั้งดูแลราคาข้าวไม่ให้ตกลง แต่จากที่ได้รับรายงานพบว่า ยังมีหลายตลาดมีแผนการนำเข้าลดลง เนื่องประเทศผู้ปลูกข้าวมีราคาต่ำกว่าข้าวไทย ดังนั้น จะร่วมกับภาคเอกชนเร่งหาตลาดอื่นทดแทนกันต่อไป เพราะชื่อว่าคุณภาพข้าวไทยดีกว่าหลายประเทศ