พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงการดำเนินงานของโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า เป็นการดำเนินการโดยมีคณะกรรมการแต่ละส่วนมาบริหารจัดการ มีลักษณะเป็นนิติบุคคลภายใต้มูลนิธิ โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างฯ และประธานมูลนิธิ ส่วนกรณีมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลในเรื่องเกี่ยวข้องการจัดสร้างอุทยานฯ นั้น เชื่อว่าทางคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินงานในแต่ละส่วนจะมีข้อมูล และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่สามารถชี้แจงกับสังคมได้ และจากที่ติดตามข่าวสารจากคณะทำงานล่าสุดก็ยังไม่มีการร้องเรียนร้องทุกข์ใดๆ มีเพียงข้อมูลจากที่สื่อนำเสนอโดยไม่มีที่มาแหล่งข่าวที่ชัดเจน
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หากเกิดข้อกังวลสงสัยในพฤติกรรมใดๆ ของกำลังพลในสังกัด จะด้วยพฤติกรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือการทำงานส่วนตัวในหน้าที่อื่นๆ ทั่วไป สามารถประสานหรือร้องมาอย่างเป็นทางการได้ที่กองทัพบก หากมั่นใจว่าถ้าพบพฤติกรรมใดเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบของกองทัพ ทางผู้บังคับบัญชาจะมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินการให้ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างแน่นอน
ส่วนกรณี พ.อ.คชาชาต บุญดี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นลักษณะพฤติกรรมส่วนบุคคล ซึ่งทางต้นสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบในข้อเท็จจริงหลังจากที่ได้มีการร้องทุกข์แจ้งข้อกล่าวหา โดยได้มีการประสานกันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เบื้องต้นทราบว่าขาดจากราชการไปตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งทางหน่วยคงอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาเข้าสู่กระบวนการ หากไม่สามารถติดตามตัวมาได้ภายในเวลาที่กำหนด ก็อาจจะมีการจำหน่ายปลดออกจากราชการ ตามขั้นตอนระเบียบของกองทัพ
ทั้งนี้ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ระบุว่า หากข้าราชการทหารขาดงานติดต่อกันเป็นเวลา 15 วันทำการ ถือว่า ขาดราชการ และหากขาดราชการ เกิน 15 วัน ถือว่า หนีราชการ ต้นสังกัดสามารถทำเรื่องปลดออกได้ทันที
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หากเกิดข้อกังวลสงสัยในพฤติกรรมใดๆ ของกำลังพลในสังกัด จะด้วยพฤติกรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือการทำงานส่วนตัวในหน้าที่อื่นๆ ทั่วไป สามารถประสานหรือร้องมาอย่างเป็นทางการได้ที่กองทัพบก หากมั่นใจว่าถ้าพบพฤติกรรมใดเป็นเรื่องไม่ถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อระเบียบของกองทัพ ทางผู้บังคับบัญชาจะมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินการให้ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างแน่นอน
ส่วนกรณี พ.อ.คชาชาต บุญดี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นลักษณะพฤติกรรมส่วนบุคคล ซึ่งทางต้นสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบในข้อเท็จจริงหลังจากที่ได้มีการร้องทุกข์แจ้งข้อกล่าวหา โดยได้มีการประสานกันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เบื้องต้นทราบว่าขาดจากราชการไปตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งทางหน่วยคงอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาเข้าสู่กระบวนการ หากไม่สามารถติดตามตัวมาได้ภายในเวลาที่กำหนด ก็อาจจะมีการจำหน่ายปลดออกจากราชการ ตามขั้นตอนระเบียบของกองทัพ
ทั้งนี้ ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ระบุว่า หากข้าราชการทหารขาดงานติดต่อกันเป็นเวลา 15 วันทำการ ถือว่า ขาดราชการ และหากขาดราชการ เกิน 15 วัน ถือว่า หนีราชการ ต้นสังกัดสามารถทำเรื่องปลดออกได้ทันที