พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษยโรฮีนจา ถูกย้ายจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)ว่า ตามระเบียบแล้วหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้าย สามารถมายื่นหนังสือร้องทุกข์ได้ที่กองร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาว่าถูกกลั่นแกล้งจริงหรือไม่ โดยการร้องเรียนนั้นส่วนใหญ่จะได้รับความเป็นธรรม แต่กรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว ซึ่งต้องแล้วแต่ความต้องการของ พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งตัวเองจะไม่มีการยับยั้งการลาออก และจะไม่มีการเรียก พล.ต.ต.ปวีณ มาพูดคุย พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีการรับใบสั่งจากทางการเมือง หรือการทหารให้สั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบสาเหตุการลาออกของ พล.ต.ต. ปวีณ เป็นเพราะสาเหตุส่วนตัว ที่จะกลับไปดูแลบิดา มารดา และครอบครัว ส่วนที่พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า ถูกข่มขู่ โดยมีการมุ่งร้ายไปที่ครอบครัวนั้น ตามหลัก พล.ต.ต.ปวีณ สามารถร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคุ้มกันได้ หลังจากนี้จะต้องมีการทบทวนการมอบหมายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนคดีต่างๆ ซึ่งคงจะต้องมีการสอบถามว่ากลัวตาย หรือว่ากลัวฟ้องร้องหรือไม่ เพราะการออกมาระบุเช่น พล.ต.ต.ปวีณ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานใต้บังคับบัญชาเสียขวัญและกำลังใจ
พร้อมทั้งยอมรับว่าเสียดายความรู้ ความสามารถ ด้านการสืบสวนของ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นอย่างมาก
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบสาเหตุการลาออกของ พล.ต.ต. ปวีณ เป็นเพราะสาเหตุส่วนตัว ที่จะกลับไปดูแลบิดา มารดา และครอบครัว ส่วนที่พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า ถูกข่มขู่ โดยมีการมุ่งร้ายไปที่ครอบครัวนั้น ตามหลัก พล.ต.ต.ปวีณ สามารถร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคุ้มกันได้ หลังจากนี้จะต้องมีการทบทวนการมอบหมายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนคดีต่างๆ ซึ่งคงจะต้องมีการสอบถามว่ากลัวตาย หรือว่ากลัวฟ้องร้องหรือไม่ เพราะการออกมาระบุเช่น พล.ต.ต.ปวีณ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานใต้บังคับบัญชาเสียขวัญและกำลังใจ
พร้อมทั้งยอมรับว่าเสียดายความรู้ ความสามารถ ด้านการสืบสวนของ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นอย่างมาก
