รายงานข่าวแจ้งว่า เพจเฟซบุ๊ก "ชมรมแพทย์ชนบท" ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแสดงจุดยืนเคียงข้างอัยการสูงสุด ต่อการดำเนินคดีการเลี่ยงภาษีของบริษัทฟิลิป มอร์ริส ซึ่งเป็นบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ และค้างคามาตั้งแต่ปี 2546 หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ถึง 12 ราย โดยระบุรายละเอียด คือ
ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแสดงจุดยืนต่อกรณีการดำเนินคดีการโกงภาษีของบริษัทฟิลิปมอร์ริส
คดีใหญ่อีกคดี คือคดี"ฟิลลิป มอร์ริส" บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีอำนาจเงินมหาศาล ได้เลี่ยงภาษีบุหรี่ 6.8 หมื่นล้านบาท กรณีบริษัทนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร่และยี่ห้อแอลแอนด์เอ็มจากประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างปี 2546 ถึง 2550 จนกระทั่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย แต่ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างหนัก เพื่อให้รัฐบาลหรือ คสช.ใช้อำนาจพิเศษที่มีสั่งการให้ยุติการฟ้องร้อง หรือชะลอไปไม่ดำเนินการจนคดีหมดอายุความ เพื่อที่จะไม่รับผิดและต้องเสียภาษีดังกล่าว เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสฯ ได้ทำหนังสือร้องไปยังคสช. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงต่างๆ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องให้ รองนายกวิษณุ เชิญผู้เกี่ยวข้องประชุมหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน2558 ข่าวว่าผู้เข้าร่วมประชุม คือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ขณะนั้น) นางทรงรัตน์ เย็นอุรา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอัยการสูงสุด นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ และด้วยความสามารถพิเศษได้ทำให้กระทรวงพาณิชย์ได้เปลี่ยนจุดยืน ถึงขั้นขอให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง (แม้จะออกมาแก้เกี่ยวในภายหลัง) โดยอ้างว่า “จะส่งผลกระทบต่อการค้า เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศไทย” อีกทั้งยังชี้ช่องให้อัยการด้วยว่า “ให้ใช้ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการฟ้องไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน"
ส่วนพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเองก็ไม่ได้มีท่าทีจะดำเนินการไปในทางใดที่ชัดเจน จึงส่อเค้าว่า อาจมีการพลิกเกมส์จนบริษัทที่โกงภาษีพ้นความผิดและไม่ต้องจ่ายคืนภาษีให้รัฐก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเองก็ยังไม่มีจุดยืนใดๆที่ปรากฏต่อสาธารณะ ยังคงลอยตัว ปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของ นพ.ประกิจ เวทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ไปเสียอย่างนั้น นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ทั้งๆที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ควรเป็นผู้นำในกรณีดังกล่าว
ชมรมแพทย์ชนบท จึงขอเรียกร้องว่า
1. ในสถานการณ์ที่ต้องยืนหยัด ผู้นำควรหยัดยืนออกมาอยู่แถวหน้า ประกาศจุดยืนที่ถูกต้อง คดีนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรหลบอยู่หลังฉาก ชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขออกมาแถวหน้าเคียงข้างอัยการสูงสุด ฟ้องเอาเงินภาษีที่เลี่ยงมาหลายปีกลับมาเป็นของแผ่นดินให้จงได้
2. ขอให้ทางรัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีมีความมั่นคงในการเอาผิดบริษัทบหรี่ที่ทำผิดกฏหมายไทยให้จงได้ ตามนโยบายกวาดล้างคอร์รัปชั่นที่บ่อนทำลายประเทศ
ทั้งนี้ชมรมแพทย์ชนบทจะนัดหมายเพื่อยื่นหนังสือในกรณีดังกล่าวกับท่านนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแสดงจุดยืนต่อกรณีการดำเนินคดีการโกงภาษีของบริษัทฟิลิปมอร์ริส
คดีใหญ่อีกคดี คือคดี"ฟิลลิป มอร์ริส" บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีอำนาจเงินมหาศาล ได้เลี่ยงภาษีบุหรี่ 6.8 หมื่นล้านบาท กรณีบริษัทนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร่และยี่ห้อแอลแอนด์เอ็มจากประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างปี 2546 ถึง 2550 จนกระทั่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย แต่ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างหนัก เพื่อให้รัฐบาลหรือ คสช.ใช้อำนาจพิเศษที่มีสั่งการให้ยุติการฟ้องร้อง หรือชะลอไปไม่ดำเนินการจนคดีหมดอายุความ เพื่อที่จะไม่รับผิดและต้องเสียภาษีดังกล่าว เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสฯ ได้ทำหนังสือร้องไปยังคสช. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงต่างๆ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จนต้องให้ รองนายกวิษณุ เชิญผู้เกี่ยวข้องประชุมหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน2558 ข่าวว่าผู้เข้าร่วมประชุม คือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ขณะนั้น) นางทรงรัตน์ เย็นอุรา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอัยการสูงสุด นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ และด้วยความสามารถพิเศษได้ทำให้กระทรวงพาณิชย์ได้เปลี่ยนจุดยืน ถึงขั้นขอให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง (แม้จะออกมาแก้เกี่ยวในภายหลัง) โดยอ้างว่า “จะส่งผลกระทบต่อการค้า เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศไทย” อีกทั้งยังชี้ช่องให้อัยการด้วยว่า “ให้ใช้ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการฟ้องไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน"
ส่วนพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเองก็ไม่ได้มีท่าทีจะดำเนินการไปในทางใดที่ชัดเจน จึงส่อเค้าว่า อาจมีการพลิกเกมส์จนบริษัทที่โกงภาษีพ้นความผิดและไม่ต้องจ่ายคืนภาษีให้รัฐก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเองก็ยังไม่มีจุดยืนใดๆที่ปรากฏต่อสาธารณะ ยังคงลอยตัว ปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของ นพ.ประกิจ เวทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ไปเสียอย่างนั้น นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ทั้งๆที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ควรเป็นผู้นำในกรณีดังกล่าว
ชมรมแพทย์ชนบท จึงขอเรียกร้องว่า
1. ในสถานการณ์ที่ต้องยืนหยัด ผู้นำควรหยัดยืนออกมาอยู่แถวหน้า ประกาศจุดยืนที่ถูกต้อง คดีนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรหลบอยู่หลังฉาก ชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขออกมาแถวหน้าเคียงข้างอัยการสูงสุด ฟ้องเอาเงินภาษีที่เลี่ยงมาหลายปีกลับมาเป็นของแผ่นดินให้จงได้
2. ขอให้ทางรัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีมีความมั่นคงในการเอาผิดบริษัทบหรี่ที่ทำผิดกฏหมายไทยให้จงได้ ตามนโยบายกวาดล้างคอร์รัปชั่นที่บ่อนทำลายประเทศ
ทั้งนี้ชมรมแพทย์ชนบทจะนัดหมายเพื่อยื่นหนังสือในกรณีดังกล่าวกับท่านนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
