ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการพิจารณานัดตรวจพยานหลักฐาน ของทั้งฝ่ายอัยการสูงสุด ในฐานะโจทก์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะ จำเลย ตามฐานความผิด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. ในคดีโครงการจำนำข้าว โดยศาลวิเคราะห์พยานหลักฐาน และข้อโต้แย้งของคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว ให้โจทย์นำพยานเข้าได้ไต่สวน 14 ปาก ส่วนนายบรรยง อินทนา นางสวีณา พลพืชน์ น.ส.ศิรษา กันต์พิทยา และนางสดศรี สัตยธรรม ให้รอไว้พิจารณาสั่ง เมื่อทำการไต่สวนพยานแต่ละฝ่ายเสร็จสิ้น และจะไต่สวนทั้งสิ้น จำนวน 5 นัด โดยเริ่มนัดแรกวันที่ 15 ม.ค. 59 และนัดสุดท้ายวันที่ 4 และ 23 มี.ค. 59
ขณะที่ฝ่ายจำเลยให้นำพยานเข้าไต่สวน 43 ปาก จำนวน 16 นัด เริ่มนัดแรกในวันที่ 1 และวันที่ 22 เม.ย. 59 และนัดสุดท้ายวันที่ 4 และวันที่ 18 พ.ย. 59
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จำเลยจำนวน 43 ปาก ที่ศาลฎีกาฯ อนุญาตให้นำมาไต่สวนได้ ส่วนหนึ่งเป็นพยานที่เคยยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และไม่รับไปสอบสวน อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายโอฬาร ชัยประวัติ และนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ซึ่งถือเป็นความกรุณาของศาล พร้อมขอบคุณประชาชนที่สนับสนุน รวมถึงนัดรวมตัวทำกิจกรรมในวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่อยากขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ และกระทำสิ่งที่ไม่ขัดต่อคำสั่ง คสช.
ขณะที่ฝ่ายจำเลยให้นำพยานเข้าไต่สวน 43 ปาก จำนวน 16 นัด เริ่มนัดแรกในวันที่ 1 และวันที่ 22 เม.ย. 59 และนัดสุดท้ายวันที่ 4 และวันที่ 18 พ.ย. 59
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จำเลยจำนวน 43 ปาก ที่ศาลฎีกาฯ อนุญาตให้นำมาไต่สวนได้ ส่วนหนึ่งเป็นพยานที่เคยยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และไม่รับไปสอบสวน อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายโอฬาร ชัยประวัติ และนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ซึ่งถือเป็นความกรุณาของศาล พร้อมขอบคุณประชาชนที่สนับสนุน รวมถึงนัดรวมตัวทำกิจกรรมในวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่อยากขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ และกระทำสิ่งที่ไม่ขัดต่อคำสั่ง คสช.