xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” จี้แก้ให้ชัดประชามติยึดเสียงข้างมากผู้ใช้สิทธิ แทนผู้มีสิทธิ กันเกิดปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม อดีตกกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ (แฟ้มภาพ)
“สดศรี” เผยรัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุผ่านประชามติต้องใช้เสียงข้างมากผู้มีสิทธิ รับไม่มีทางผ่านแน่เหตุต้องใช้กว่า 23 ล้านเสียง ชี้ควรกำหนดจากเสียงข้างมากที่มาใช้สิทธิแบบปี 50 จี้แก้ไขให้ชัดเจนหวั่นมีปัญหาตามมา

วันนี้ (3 ก.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวกรณีรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม เขียนบัญญัติว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติได้ต้องใช้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงว่า กรณีนี้แตกต่างจากการออกเสียงประชามติที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 เนื่องจาก พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าวมีการกำหนดองค์ประกอบเสียงให้เกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ดังนั้น หากใช้คำว่าเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงโอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติได้นั้นยากมาก เพราะหากมีผู้มีสิทธิออกเสียง 47 ล้านคน เท่ากับว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติต้องได้เสียงเห็นชอบจำนวน 23 ล้านกว่าเสียง ซึ่งคงไม่มีทางที่จะถึงแน่นอน

“โดยหลักการควรกำหนดให้เสียงเห็นชอบเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงจะชัดเจนกว่า เพราะการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2550 ประกาศของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติก็ใช้เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ฉะนั้นจึงเห็นว่าการคำนวณต้องคำนวนจากตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงไม่ใช่ตัวเลขจากผู้มีสิทธิออกเสียง ถ้าหากใช้ตัวเลขของผู้มีสิทธิออกเสียง ไม่มีทางเลยที่รัฐธรรมนูญจะผ่านได้”

เมื่อถามว่าการเขียนกฎหมายไม่ชัดเจนแบบนี้จะเป็นปัญหาในการตีความหรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า หากกำหนดให้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงเชื่อว่าจะมีปัญหาแน่ เพราะโอกาสที่คะแนนเสียงเห็นชอบจะไม่ถึงกึ่งหนึ่งเป็นไปได้สูงมาก ส่วนตัวอยากให้ผู้ที่มีอำนาจดำเนินการแก้ไขให้เกิดความชัดเจนไปเลย เพราะถ้ามีคนไปร้องเรียนว่า กกต.เขียนประกาศไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากตามมาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น