รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ "ชัย ราชวัตร" เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. หลังถูกหมิ่นประมาทผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง
โดย ชัย ราชวัตร เปิดเผยว่า เมื่อประมาณวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีคนรู้จักแจ้งมาว่าเห็นคนที่ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก โพสต์รูปที่ตัวเองใส่เสื้อสีเหลือง นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในภาพมีข้อความว่า "ประเทศไทยต้องแบ่งชนชั้นวรรณะเท่านั้นจึงจะสงบได้ ไม่จำเป็นต้องปรองดอง ชัย ราชวัตร อดีตม็อบ กปปส. วันที่ 24 มีนาคม 2558" ซึ่งข้อความดังกล่าวมีการโพสต์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ทำให้คนทั่วไทย เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นพวกแบ่งชนชั้นวรรณะ และโพสต์ต่อว่าต่างๆ นานา ทำให้เสียชื่อเสียง
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเองทำหน้าที่สื่อมวลชนอาวุโส เขียนการ์ตูนล้อเลียนการเมืองมานาน มีคนที่เข้ามาด่าหรือโพสต์ในทำนองนี้ก็มาก แต่ครั้งนี้ได้ปรึกษากับทนายเข้าแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจเอาคนผิดมาลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ด้านพันตำรวจเอกสมพร ดวงดี รองผู้บังคับการตำรวจ ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการรับแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันแล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาด้วยการกระจายภาพ เสียง และข่าว เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย หลังจากนี้จะได้สืบค้นข้อมูล ผู้ที่ใช้ชื่อบัญชีดังกล่าว เพื่อติดตามมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดย ชัย ราชวัตร เปิดเผยว่า เมื่อประมาณวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีคนรู้จักแจ้งมาว่าเห็นคนที่ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก โพสต์รูปที่ตัวเองใส่เสื้อสีเหลือง นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในภาพมีข้อความว่า "ประเทศไทยต้องแบ่งชนชั้นวรรณะเท่านั้นจึงจะสงบได้ ไม่จำเป็นต้องปรองดอง ชัย ราชวัตร อดีตม็อบ กปปส. วันที่ 24 มีนาคม 2558" ซึ่งข้อความดังกล่าวมีการโพสต์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ทำให้คนทั่วไทย เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นพวกแบ่งชนชั้นวรรณะ และโพสต์ต่อว่าต่างๆ นานา ทำให้เสียชื่อเสียง
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเองทำหน้าที่สื่อมวลชนอาวุโส เขียนการ์ตูนล้อเลียนการเมืองมานาน มีคนที่เข้ามาด่าหรือโพสต์ในทำนองนี้ก็มาก แต่ครั้งนี้ได้ปรึกษากับทนายเข้าแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจเอาคนผิดมาลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ด้านพันตำรวจเอกสมพร ดวงดี รองผู้บังคับการตำรวจ ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการรับแจ้งความ และลงบันทึกประจำวันแล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาด้วยการกระจายภาพ เสียง และข่าว เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย หลังจากนี้จะได้สืบค้นข้อมูล ผู้ที่ใช้ชื่อบัญชีดังกล่าว เพื่อติดตามมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป