นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงการที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เตรียมพิจารณาหมวดการเมืองในสัปดาห์นี้ว่า ถือเป็นประเด็นร้อนสำหรับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งระบบเลือกตั้ง ส.ส. ที่มา ส.ว. และที่มานายกรัฐมนตรี ซึ่งประเด็นเหล่านี้มีหลายความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และนักวิชาการฯ ดังนั้นตนอยากให้มีการเปิดรับฟังความเห็นจากทุกๆ ด้านแบบใจกว้าง โดยดูเหตุผลประกอบ ข้อดีข้อเสียในหลายๆ ด้าน ไม่ใช่แค่การรับฟังความเห็นเฉยๆ หรือเป็นเพียงแค่รูปแบบ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ได้อะไรอีก
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่มา ส.ว.นั้น ตนเห็นว่าจะมาจากเลือกตั้ง หรือสรรหา ควรเป็นแค่ระบบเดียว ไม่ควรเป็นแบบสัดส่วนผสม เพราะที่ผ่านก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ส.ว.แบบผสม ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ มีปัญหาทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งควรลดอำนาจ ส.ว. จากที่เคยถอดถอนได้ ตัดทิ้งให้อำนาจการถอดถอนไปให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา เพราะหากอำนาจเยอะคนแย่งกันเป็น สำหรับที่มานายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ เห็นว่าควรมีข้อยกเว้น โดยอาจเขียนในบทเฉพาะกาลไว้ ซึ่งอาจเว้นได้ในการเลือกตั้ง 1-2 ครั้ง เพื่อให้การแก้ปัญหาประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การปฏิรูปได้ ก่อนที่จะเปิดให้มีการเลือกตั้งโดยตรง
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่มา ส.ว.นั้น ตนเห็นว่าจะมาจากเลือกตั้ง หรือสรรหา ควรเป็นแค่ระบบเดียว ไม่ควรเป็นแบบสัดส่วนผสม เพราะที่ผ่านก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ส.ว.แบบผสม ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ มีปัญหาทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งควรลดอำนาจ ส.ว. จากที่เคยถอดถอนได้ ตัดทิ้งให้อำนาจการถอดถอนไปให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา เพราะหากอำนาจเยอะคนแย่งกันเป็น สำหรับที่มานายกรัฐมนตรีควรมาจากการเลือกตั้ง แต่ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ เห็นว่าควรมีข้อยกเว้น โดยอาจเขียนในบทเฉพาะกาลไว้ ซึ่งอาจเว้นได้ในการเลือกตั้ง 1-2 ครั้ง เพื่อให้การแก้ปัญหาประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การปฏิรูปได้ ก่อนที่จะเปิดให้มีการเลือกตั้งโดยตรง
