พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลจับกุมคดีอุกฉกรรจ์กสะเทือนขวัญ จี้ชิงทรัพย์ประชาชนในพื้นที่นครบาลรวม 3 คดี โดยคดีแรกชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 จับกุมนางสาวหมวย หรือ NANG YINE LU อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า พร้อมยาบ้า 25,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังตำรวจสืบทราบว่านาวสาวหมวย มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด จึงซ้อนแผนจับกุมได้บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ หน้าตลาดบางประกอก พร้อมนำตัวไปค้นห้องพัก สารภาพว่ารับคำสั่งจากนางสาวอ้อย ให้นำยาเสพติดมาซุกซ่อนในห้องพักเพื่อรอจำหน่าย ซึ่งขณะจับกุมนางสาวอ้อย ชาวไทใหญ่ ได้ไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งยาบ้ายาล็อตนี้เป็นเครือข่ายของนางสาวเล็ก เอเย่นต์รายใหญ่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนภาคเหนือของไทย
คดีที่สอง ตำรวจ สน.อุดมสุข จับกุมนายวีระวัฒน์ หรือแบงค์ พลายแก้ว และนายกิตติ หรือนำ ธนัตเดชาชัย ร่วมกันชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนอัดลม มีดทำครัว 1 เล่ม จี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ได้เงินสดไป 700 บาท แล้วหลบหนี นอกจากนั้น ยังอ้างตัวเป็นตำรวจ คอยเรียกตรวจพาสปอร์ตชาวอินเดีย ก่อนใช้อาวุธปืนปลอมจี้บังคับทรัพย์สิน ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่ สน.อุดมสุข มาแล้ว 9 ครั้ง และยังมีพื้นที่ใกล้เคียงอีกจำนวนมาก สอบสวนรับสารภาพก่อเหตุจริงและต้องการเงินมาซื้อยาบ้าเสพ โดยมักเลือกชาวต่างด้าวเพราะคิดว่าเหยื่อจะไม่แจ้งความเอาผิด
คดีสุดท้าย ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น จับกุมนายกิตติภพ หรือแม็ค มณีรัตนกุลชัย พร้อมรถยนต์สวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 1 คัน อาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าหนังแขวนตราสัญลักษณ์ตำรวจนครบาลปลอม หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า นายกิตติภพ ซึ่งรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต ขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับจากที่พักย่านรังสิต จากนั้นได้อ้างตัวเป็นตำรวจจะเรียกจับเรื่องค้าประเวณีและเรียกรับเงินจำนวน 3,000 บาท แต่ผู้เสียหายมีเพียง 1,000 บาท จึงถูกบังคับกระทำชำเรา และยึดโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง ก่อนใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้ลงจากรถบริเวณปากซอยประชาชื่น 8 ตำรวจออกหาเบาะแสจนพบรถจอดอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น และมีการติดตราสัญลักษณ์ตำรวจด้านหน้ารถ จึงเข้าตรวจค้นห้องพัก พบยาไอซ์หนัก 0.96 กรัม และมีแผ่นป้ายทะเบียนปลอมอีก 2 แผ่น และจากการตรวจสอบรถยนต์พบว่าทะเบียนรถ 4 กฐ 6428 ได้มีเจ้าของแจ้งความรถหายไว้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอยุญาต ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดข้อหา
คดีที่สอง ตำรวจ สน.อุดมสุข จับกุมนายวีระวัฒน์ หรือแบงค์ พลายแก้ว และนายกิตติ หรือนำ ธนัตเดชาชัย ร่วมกันชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนอัดลม มีดทำครัว 1 เล่ม จี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ได้เงินสดไป 700 บาท แล้วหลบหนี นอกจากนั้น ยังอ้างตัวเป็นตำรวจ คอยเรียกตรวจพาสปอร์ตชาวอินเดีย ก่อนใช้อาวุธปืนปลอมจี้บังคับทรัพย์สิน ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่ สน.อุดมสุข มาแล้ว 9 ครั้ง และยังมีพื้นที่ใกล้เคียงอีกจำนวนมาก สอบสวนรับสารภาพก่อเหตุจริงและต้องการเงินมาซื้อยาบ้าเสพ โดยมักเลือกชาวต่างด้าวเพราะคิดว่าเหยื่อจะไม่แจ้งความเอาผิด
คดีสุดท้าย ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น จับกุมนายกิตติภพ หรือแม็ค มณีรัตนกุลชัย พร้อมรถยนต์สวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 1 คัน อาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าหนังแขวนตราสัญลักษณ์ตำรวจนครบาลปลอม หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า นายกิตติภพ ซึ่งรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต ขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับจากที่พักย่านรังสิต จากนั้นได้อ้างตัวเป็นตำรวจจะเรียกจับเรื่องค้าประเวณีและเรียกรับเงินจำนวน 3,000 บาท แต่ผู้เสียหายมีเพียง 1,000 บาท จึงถูกบังคับกระทำชำเรา และยึดโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง ก่อนใช้ปืนจี้ขู่บังคับให้ลงจากรถบริเวณปากซอยประชาชื่น 8 ตำรวจออกหาเบาะแสจนพบรถจอดอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น และมีการติดตราสัญลักษณ์ตำรวจด้านหน้ารถ จึงเข้าตรวจค้นห้องพัก พบยาไอซ์หนัก 0.96 กรัม และมีแผ่นป้ายทะเบียนปลอมอีก 2 แผ่น และจากการตรวจสอบรถยนต์พบว่าทะเบียนรถ 4 กฐ 6428 ได้มีเจ้าของแจ้งความรถหายไว้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอยุญาต ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดข้อหา