รวบอดีตอาสาตำรวจลวงสาวไซด์ไลน์ข่มขืน-ชิงทรัพย์หลบหนี

รวบอดีตอาสาตำรวจนัดเจอสาวไซด์ไลน์ก่อนใช้ปืนปลอมข่มขู่ร่วมเพศ พร้อมบังคับเอาเงิน 1,000 บาท และโทรศัพท์มือถือหลบหนี ตำรวจขยายผลตรวจค้นแมนชั่นย่านเตาปูนเจอยาไอซ์ซุกห้องพัก จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.สมใจ เมฆหมอก สว.สส.สน.ประชาชื่น แถลงข่าวจับกุม นายกิตติภพ มณีรัตนกุลชัย หรือแม็ค อายุ 28 ปี ที่อยู่ 656 ถ.เตชะวนิช แขวงและเขตบางซื่อ กทม. พร้อมของกลาง เงินสด 1,000 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง อาวุธปืนปลอมขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก รถยนต์นั่งส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน 4 กฐ 6428 กทม. ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ แผ่นป้ายทะเบียนปลอม พร้อมกุญแจรีโมต ติดเครื่องหมายตำรวจที่กระจังหน้ารถและสติกเกอร์ตำรวจภูธรภาค 1 เสื้อยืดแขนสั้นโปโลคอสีน้ำเงิน หมวกแก๊ปสีดำ กระเป๋าหนังสีดำบัตรแบบแขวนคอ มีเครื่องหมายแสดงตราและอักษรตำรวจนครบาล โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถอาคารเตาปูนแมนชั่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร

พ.ต.ท.สมใจกล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00-05.00 น. นายกิตติภพ ผู้ต้องหาซึ่งรู้จักกับผู้เสียหายผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ตได้นัดกันออกมาเจอกันที่พักย่านรังสิต โดยขับรถยนต์ทะเบียน 4 ก -6428 กทม. เป็นรถที่ถูกขโมยมาจาก จ.ขอนแก่น ไปรับ แต่ระหว่างขับรถผู้เสียหายสังเกตเห็นสติกเกอร์ตำรวจที่หน้ารถ โดยนายกิตติภพอ้างตัวเป็นตำรวจจะจับผู้เสียหายเรื่องการค้าประเวณี แล้วทำทีเป็นโทรศัพท์หาเจ้านายซึ่งต้องเคลียร์เงิน 3,000 บาทเพื่อจบเรื่อง แต่ผู้เสียหายมีเงินเพียง 1,000 บาท นายกิตติภพจึงบอกว่าต้องมีเพศสัมพันธ์กันก่อน แล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นคอล 1 เครื่อง ราคาประมาณ 8,000 บาทไป พร้อมกับขับรถยนต์ไปที่เกิดเหตุในซอยเสริมสุข เมื่อหยุดรถแล้วได้นำอาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อและขนาด ภายหลังจึงทราบว่าเป็นเพียงปืนอัดลมที่ผู้ต้องหาหยิบมาสไลด์ลำกล้องปืน 1 ครั้ง พร้อมบังคับให้ผู้เสียหายส่งเงินให้ 1,000 บาท แต่ผู้เสียหายยังไม่ยอมส่งให้ นายกิตติภพจึงสไลด์ปืนอีก 1 ครั้ง จนผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงส่งเงินให้ จากนั้นนายกิตติภพได้พูดจาข่มขู่ให้ผู้เสียหายอมอวัยวะเพศ ผู้เสียหายกลัวจึงยอมทำตาม จากนั้นนายกิตติภพข่มขืนผู้เสียหายแล้วขับรถไปจอดบริเวณซอยประชาชื่น 8 แล้วไล่ให้ผู้เสียหายลงจากรถก่อนจะขับหลบหนีไป

พ.ต.ท.สมใจกล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุผู้เสียหายได้ร้องขอโทรศัพท์คืนแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมคืนให้ พร้อมเอาอาวุธปืนออกมาขู่ให้ลงจากรถ ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนซึ่งได้พาผู้เสียหายออกติดตามจนกระทั่งพบรถยนต์คันที่ใช้เกิดเหตุจอดอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. จากนั้นจึงได้แจ้งวิทยุบริเวณโดยรอบพื้นที่ ภายหลังจากผู้เสียหายจำทะเบียนรถได้และพบว่ารถยนต์ของผู้ต้องหาขับขี่ไปทางพื้นที่เตาปูน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่รับเพียงแค่คดีที่ก่อเหตุครั้งนี้เท่านั้น เชื่อว่าน่าจะเคยก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ลักษณะหลอกล่อเหยื่อเป็นสาวไซด์ไลน์ขายบริการเข้ามา จากนั้นแสดงตัวเป็นตำรวจแล้วใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่หลอกเอาเงินทรัพย์สิน สาเหตุที่ทำเนื่องจากเคยมีประสบการณ์เป็นอาสาสมัครตำรวจพื้นที่ สน.สุทธิสารมาก่อน แล้วจะใช้วิธีการของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอ้างมาเพื่อกระทำความผิด และจากการขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 305 เตาปูนแมนชั่นของผู้ต้องหา พบยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) จำนวน 0.96 กรัม) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนเพื่อดำเนินคดี ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4 กฐ 6428 กทม. น.ส.กวินนาถ สร้อยทอง อายุ 31 ปี ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน ว่ารถยนต์หายไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค.เวลาประมาณ 16.30 น. จึงได้ประสานพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่ออายัดตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป