ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทหาร-ตำรวจหาดใหญ่ เปิด “ปฏิบัติการแสงใต้” บุก “ซอยตัวยู” จับเอเยนต์ค้ามนุษย์นำหญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี ลักลอบค้าประเวณี
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิด “ปฏิบัติการแสงใต้” เข้าจับกุมร้านโรงเตี้ยม คาราโอเกะ ในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร หลังพบว่ามีการนำหญิงสาวชาวลาวกว่า 20 คน เข้ามาลักลอบค้าประเวณี ซึ่งได้ช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาวอายุไม่เกิน 18 ปี ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ไว้ได้ จำนวน 3 คนนั้น
นายรณสิทธิ์ พฤกษาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวน องค์กรด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ ยังคงได้รับการแจ้งเบาะแส และร้องเรียนจากประชาชนอีกว่า ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายในซอย ส.ธรรมโรจน์ หรือที่รู้จักกันในหมู่นักเที่ยวว่า “ซอยตัวยู” มีการลักลอบเปิดสถานที่ขายบริการทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ซึ่งจากการตรวจสอบภายในซอยตัวยู พบว่า มีอยู่จำนวน 6 ร้าน ในจำนวนนี้มี จำนวน 3 ร้าน ที่น่าเชื่อว่ามีการนำหญิงสาวชาวลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ ดังนั้น จึงได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้พนักงานฝ่ายปกครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และจับกุมปราบปรามผู้กระทำความผิด
วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับทหารและตำรวจ จึงได้เปิด “ปฏิบัติการแสงใต้” อีกครั้ง เพื่อเข้าตรวจสอบ และจับกุมสถานค้าประเวณีที่มีการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดังกล่าว ในการปฏิบัติการครั้งนี้อำนวยการโดย นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง และนายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา พนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม นำโดย นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอสงขลา นายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา และนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ พนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พ.อ.พงศ์คณิศร์ ธรรมะสกุล ศปป.2 กอ.รมน. นายรณสิทธิ์ พฤกษาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวน องค์กรพัฒนาเอกชนด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ นายกองตรีปารเมศ เฮ้งสวัสดิ์ ผบ.ร้อย บก.บร.ส่วนหน้า จชต. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง และ พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าพนักงานได้ให้สายลับทำการล่อซื้อบริการจากสถานประกอบการภายในซอยตัวยู ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
โดยที่ร้านนานา เลขที่ 269/27 ได้นำหญิงบริการ จำนวน 5 คน ทั้งชาวไทย และชาวพม่ามาให้เลือกซื้อบริการ เจ้าพนักงานจึงได้จับกุมตัวเอเยนต์ และขยายผลเข้าตรวจสอบภายในร้านพบผู้ดูแลร้าน จำนวน 2 คน จึงได้จับกุมตัว นางวิภาดา โคตรดี อายุ 52 ปี น.ส.เจมจิรา สมมา อายุ 23 ปี และ น.ส.nanei อายุ 22 ปี สัญชาติพม่า (ต้องสงสัยอายุต่ำกว่า 18 ปี) น.ส.nankaung อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า ไว้เช่นกัน
โดยแจ้งข้อหา นางวิภาดา ในข้อหาค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้บุคคลใดกระทำการค้าประเวณีแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นเจ้าของกิจการการค้า ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
และที่ร้านอ้อย เลขที่ 249/41 ได้นำหญิงบริการชาวลาว จำนวน 1 คน มาให้เลือกซื้อบริการ เจ้าพนักงานจึงได้จับกุมตัวเอเยนต์ และขยายผลเข้าตรวจสอบ ภายในร้านพบผู้ดูแลร้าน จำนวน 2 คน จึงได้จับกุมตัว นางสุนีย์ โสดารส อายุ 51 ปี นางเพชรรัตน์ ณ นครพนม อายุ 74 ปี และ น.ส.หนู (นา) สัญชาติลาว (ต้องสงสัยอายุต่ำกว่า 18 ปี) พร้อมแจ้งข้อหานางสุนีย์ และนางเพชรรัตน์ ในข้อหาค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้บุคคลใดกระทำการค้าประเวณีแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นเจ้าของกิจการการค้า ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม
ซึ่งจากนี้เจ้าพนักงานจะได้นำตัวหญิงบริการทั้งหมดไปที่ว่าการ อ.หาดใหญ่ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา ทำการสัมภาษณ์เพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป พร้อมนำตัวผู้ต้องหา และหญิงสาวที่ช่วยมาได้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินการต่อไป
ปฏิบัติการในครั้งนี้ ดำเนินการตามแผนปราบปรามการค้ามนุษย์ 2558 โดยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประธาน และรองประธานอนุกรรมการปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นผู้ควบคุมดูแล เร่งรัดให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนให้การปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยสำเร็จโดยเร็ว