วันนี้ (15 ต.ค.2558) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีรื้อบาร์เบียร์ ซอยสุขุมวิท10 คดีหมายเลขดำ ด.2150/2546 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ และกลุ่มผู้ค้า รวม 44 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง จ.ส.อ.อภิชาต ริมมสาร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร และพวกรวม 130 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลปราศจากเสรีภาพ
ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังค์เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน เนื่องจากนายชูวิทย์จำเลยที่ 129 ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การ “ปฏิเสธ” และเปลี่ยนคำให้การใหม่เป็น “รับสารภาพ” ตามฟ้อง พร้อมทั้งขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษจำคุกต่อศาลชั้นต้น เพื่อขอให้ส่งคำร้องของนายชูวิทย์ให้ศาลฎีกาพิจารณา ซึ่งศาลได้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาทางโทรสาร โดยศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน และให้ส่งสำนวนพร้อมคำพิพากษาคืนศาลฎีกา เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคำร้องของนายชูวิทย์ต่อไป ซึ่งศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 28 ม.ค.2559 เวลา 09.00 น.
ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังค์เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน เนื่องจากนายชูวิทย์จำเลยที่ 129 ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การ “ปฏิเสธ” และเปลี่ยนคำให้การใหม่เป็น “รับสารภาพ” ตามฟ้อง พร้อมทั้งขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษจำคุกต่อศาลชั้นต้น เพื่อขอให้ส่งคำร้องของนายชูวิทย์ให้ศาลฎีกาพิจารณา ซึ่งศาลได้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาทางโทรสาร โดยศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปก่อน และให้ส่งสำนวนพร้อมคำพิพากษาคืนศาลฎีกา เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคำร้องของนายชูวิทย์ต่อไป ซึ่งศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 28 ม.ค.2559 เวลา 09.00 น.
