รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีบุคคลและกลุ่มบุคคลจำนวนมาก ได้มีการตั้งกลุ่มหรือกรุ๊ปไลน์ (LINE) เพื่อให้ข้อมูลด้านการลงทุน ซึ่งมีทั้งที่ให้ข้อมูลข่าวสาร และบทวิเคราะห์ทั่วไปที่เป็นประโยชน์กับผู้ลงทุน รวมทั้ง ที่มีการใบ้หุ้น หรือแนะนำให้ซื้อหุ้นรายตัว ซึ่งมีทั้งที่เก็บค่าสมาชิก และที่ให้บริการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การตั้งกรุ๊ป Line แนะนำให้ซื้อ-ขายหุ้น บอกใบ้ว่าราคาหุ้น จะขึ้นไปที่ราคาเท่าไรหากเป็นกลุ่มที่มีการเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก ถือว่ามีความผิด เข้าข่ายโบรกเกอร์เถื่อน ที่ให้คำแนะนำการลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โทษฐานประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 90 หรือฝ่าฝืน มาตรา 155 มาตรา 209 มาตรา 219 มาตรา 220 หรือ มาตรา 221 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
นอกจากนี้ หากมีการแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นในกรุ๊ป Line จนทำให้เกิดการสร้างราคาหุ้น หรือทำให้ราคาหุ้นตัวนั้นๆมีการเคลื่อนไหวจนเข้าข่ายผิดปกติ ทั้งปริมาณและราคา ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ มาตรา 240 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดแพร่ข่าวอันเป็นความเท็จ ให้เลื่องลือจนอาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าหลักทรัพย์ใดจะมีราคาสูงขึ้นหรือลดลง ต้องรับโทษตามมาตรา 297 ที่ระบุว่า ผู้ใดทำการวิเคราะห์บิดเบือนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ หรือใช้ข้อมูล ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาใช้ในการวิเคราะห์ และผลของการวิเคราะห์นั้น อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคล หรือบุคคลใดๆหรือมีผลกระทบต่อราคาซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“การตรวจสอบการกระทำผิด ที่มีการส่งต่อกันผ่าน Line ค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นกรุ๊ปปิด ก.ล.ต.ไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซง เว้นแต่จะมีผู้ร้องเรียน หรือมีการแจ้งเบาะแส กรณีที่อาจเข้าข่ายมีความผิด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จึงจะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ เพื่อให้สินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส และกรุ๊ปที่ตั้งมาเพื่อให้ความรู้ปกติโดยทั่วไปก็มีจำนวนมาก ที่ไม่ได้มีการกระทำเข้าข่ายความผิด แต่ที่ผิดแน่ๆ คือการเก็บค่าสมาชิก เพราะเหมือนกับการให้คำแนะนำการลงทุนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต”
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้กฎหมาย ให้สินบนรางวัลนำจับแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ผู้ปล่อยข่าวลือข่าวลวง ที่ส่งผลกระทบกับราคาหุ้น จากเดิมที่ให้สินบนนำจับในกรณีการใช้ “อินไซเดอร์เทรดดิ้ง” และ “การปั่นหุ้น” โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากพิจารณาแล้วเสร็จจะนำกลับมาเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้เงินสินบนและเงินรางวัลจะจ่ายให้กับผู้แจ้งไม่เกิน 30% ของจำนวนเงินค่าปรับ ที่ผู้กระทำผิดชำระต่อศาลหรือชำระตามคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ หลังคดีสิ้นสุดแล้ว
นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การตั้งกรุ๊ป Line แนะนำให้ซื้อ-ขายหุ้น บอกใบ้ว่าราคาหุ้น จะขึ้นไปที่ราคาเท่าไรหากเป็นกลุ่มที่มีการเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก ถือว่ามีความผิด เข้าข่ายโบรกเกอร์เถื่อน ที่ให้คำแนะนำการลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โทษฐานประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 90 หรือฝ่าฝืน มาตรา 155 มาตรา 209 มาตรา 219 มาตรา 220 หรือ มาตรา 221 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 289 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
นอกจากนี้ หากมีการแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นในกรุ๊ป Line จนทำให้เกิดการสร้างราคาหุ้น หรือทำให้ราคาหุ้นตัวนั้นๆมีการเคลื่อนไหวจนเข้าข่ายผิดปกติ ทั้งปริมาณและราคา ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ มาตรา 240 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดแพร่ข่าวอันเป็นความเท็จ ให้เลื่องลือจนอาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าหลักทรัพย์ใดจะมีราคาสูงขึ้นหรือลดลง ต้องรับโทษตามมาตรา 297 ที่ระบุว่า ผู้ใดทำการวิเคราะห์บิดเบือนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ หรือใช้ข้อมูล ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเท็จมาใช้ในการวิเคราะห์ และผลของการวิเคราะห์นั้น อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคล หรือบุคคลใดๆหรือมีผลกระทบต่อราคาซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“การตรวจสอบการกระทำผิด ที่มีการส่งต่อกันผ่าน Line ค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นกรุ๊ปปิด ก.ล.ต.ไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซง เว้นแต่จะมีผู้ร้องเรียน หรือมีการแจ้งเบาะแส กรณีที่อาจเข้าข่ายมีความผิด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จึงจะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ เพื่อให้สินบนต่อผู้แจ้งเบาะแส และกรุ๊ปที่ตั้งมาเพื่อให้ความรู้ปกติโดยทั่วไปก็มีจำนวนมาก ที่ไม่ได้มีการกระทำเข้าข่ายความผิด แต่ที่ผิดแน่ๆ คือการเก็บค่าสมาชิก เพราะเหมือนกับการให้คำแนะนำการลงทุนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต”
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้กฎหมาย ให้สินบนรางวัลนำจับแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ผู้ปล่อยข่าวลือข่าวลวง ที่ส่งผลกระทบกับราคาหุ้น จากเดิมที่ให้สินบนนำจับในกรณีการใช้ “อินไซเดอร์เทรดดิ้ง” และ “การปั่นหุ้น” โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากพิจารณาแล้วเสร็จจะนำกลับมาเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้เงินสินบนและเงินรางวัลจะจ่ายให้กับผู้แจ้งไม่เกิน 30% ของจำนวนเงินค่าปรับ ที่ผู้กระทำผิดชำระต่อศาลหรือชำระตามคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ หลังคดีสิ้นสุดแล้ว