พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายคดีระเบิดราชประสงค์ว่า ยืนยันมีความคืบหน้าพบผู้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเพิ่มเติม และได้ประสานข้อมูลกับตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อไม่ให้คนร้ายไหวตัวทัน โดย ปปง.ตรวจสอบในส่วนของเส้นทางการเงิน แต่ไม่มีการสืบสวนทางคดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจและฝ่ายความมั่นคง
เลขาธิการปปง.กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 จะครบกำหนดที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงิน หรือ FATF (Financial Action Task Force) จะประเมินไทยว่า ได้แก้ไขมาตรฐานสถาบันการเงิน และกฎหมายเพื่อป้องกันการฟอกเงินได้ตามมาตรฐานสากลหรือไม่ซึ่งไทยยังต้องเร่งผลักดันร่างกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินที่ทำให้แพร่ขยายอาวุธที่มีอำนาจทำลายร้ายแรงหรือ กฎหมายสกัดกั้นการซื้อขายอุปกรณ์ที่นำไปใช้ผลิตนิวเคลียร์ และต้องเข้มข้นในการยกระดับสถาบันการเงินให้มีมาตรการการตรวจสอบทางการเงินที่ได้มาตรฐานสากล หากไม่สามารถปรับปรุงมาตรฐานได้ตามที่ FATF กำหนดจะมีความเสี่ยงที่ไทยถูกขึ้นบัญชีดำเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากในการทำธุรกรรมทางการเงินของสถาบันการเงินไทย
เลขาธิการปปง.กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 จะครบกำหนดที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงิน หรือ FATF (Financial Action Task Force) จะประเมินไทยว่า ได้แก้ไขมาตรฐานสถาบันการเงิน และกฎหมายเพื่อป้องกันการฟอกเงินได้ตามมาตรฐานสากลหรือไม่ซึ่งไทยยังต้องเร่งผลักดันร่างกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินที่ทำให้แพร่ขยายอาวุธที่มีอำนาจทำลายร้ายแรงหรือ กฎหมายสกัดกั้นการซื้อขายอุปกรณ์ที่นำไปใช้ผลิตนิวเคลียร์ และต้องเข้มข้นในการยกระดับสถาบันการเงินให้มีมาตรการการตรวจสอบทางการเงินที่ได้มาตรฐานสากล หากไม่สามารถปรับปรุงมาตรฐานได้ตามที่ FATF กำหนดจะมีความเสี่ยงที่ไทยถูกขึ้นบัญชีดำเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านการฟอกเงินอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากในการทำธุรกรรมทางการเงินของสถาบันการเงินไทย