“ทูตสหรัฐฯ” ระบุคดีบึ้มราชประสงค์เป็นเรื่องภายในของไทย แต่พร้อมช่วยเหลือ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยนำคณะพบปะผู้ว่าฯ โคราช หารือความร่วมมือเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และกระชับความสัมพันธ์ ชื่นชมชาวโคราชใช้สิทธิเลือกตั้งสูง ระบุคดีระเบิดราชประสงค์-สะพานสาทรเป็นเรื่องภายในประเทศของไทย แต่สหรัฐฯ พร้อมให้ความร่วมมือช่วยเหลือ รวมทั้งประณามผู้ก่อเหตุรุนแรงและเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหยื่อทุกราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ห้องรับรอง วีไอพี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายดับเบิลยู แพทริก เมอร์ฟี อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยคณะทูตทหารสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้าพบปะกับ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยมี พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น พาณิชย์จังหวัด, การค้าภายในจังหวัด, อุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

นายดับเบิลยู แพทริก เมอร์ฟี อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการพบปะหารือว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียน จ.นครราชสีมา และได้ทราบว่าจริงๆ แล้ว จ.นครราชสีมากับสหรัฐอเมริกามีประวัติความร่วมมือกันมายาวนาน ไม่ว่าเรื่องความมั่นคง เรื่องการศึกษา เรื่องการพัฒนาต่างๆ และวันนี้ตนจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของคนอเมริกันที่มาอยู่สถานศึกษาหรือแหล่งทางวัฒนธรรม

วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการมาพบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการพบปะที่ดีมาก และได้คุยกันในหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องเศรษฐกิจของ จ.นครราชสีมา เรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เรื่องคนไทย คนโคราชที่ไปอยู่สหรัฐอเมริกา รวมทั้งคนอเมริกันที่มาอยู่ที่นี่ และยังได้พูดคุยเรื่องการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของ จ.นครราชสีมาออกไปใช้เสียงถึง 76% จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด ซึ่งรู้สึกอิจฉา เพราะที่สหรัฐอเมริกาคนไปใช้สิทธิน้อยกว่า และยังได้พูดกับท่านผู้ว่าฯ ถึงเรื่องความร่วมมือกันในอนาคตด้วย

นายดับเบิลยู แพทริก เมอร์ฟี ยังกล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดที่บริเวณราชประสงค์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมดังไปทั่วโลกว่า กรณีระเบิดที่แยกราชประสงค์ และสะพานสาทร ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาลอเมริกันทางสถานทูตได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหยื่อทุกรายในเหตุระเบิด นอกจากนั้นยังประณามการก่อเหตุรุนแรงที่รับไม่ได้นี้ด้วย

“ส่วนการสอบสวนก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย ซึ่งสหรัฐฯ เองเคยเสนอให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือไปบ้างเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องคดีต้องเป็นเรื่องภายในของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย แต่สามารถพูดได้ว่าทางสหรัฐฯ เองอยากจะทำตัวเป็นประโยชน์เหมือนกัน ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนกับประเทศไทย” นายดับเบิลยู แพทริก เมอร์ฟี กล่าว