พล.ต.ต.ณัฐธร เพราะสุนทร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า จะต้องปฏิรูปการทำงานในทุกฝ่ายในช่วงที่มีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์เน้นย้ำ 2 นโยบายหลัก ที่จะนำมาใช้ในการตรวจสอบผู้ที่ผ่านเข้าออกประเทศ ด้วยการสั่งการให้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการคัดกรองตรวจคนเข้าเมือง ตัดโอกาสการสรรหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังสามารถเก็บและตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้จากส่วนกลาง พร้อมปรับขั้นตอนการทำงานให้เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงมีบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน โดยการขึ้นบัญชีดำพร้อมทั้งสั่งห้ามเข้าประเทศ ปฏิรูประบบการทำงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้สามารถตรวจสอบได้ และลดช่องว่างการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ โดยจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการบริเวณชายแดน ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ได้กำหนดแผนงานในช่วงระยะเวลา1ปีแรก โดยช่วง3เดือนแรก สั่งการให้ผู้บังคับการทุกหน่วยในสังกัดไปตรวจสอบหน่วยของตัวเองอีกครั้ง เกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบและผู้ใต้บังคับบัญชา ในประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงทั้ง 6 ประเด็น เช่น การรับจ้างทำเรื่องขยายเวลาอยู่ต่อในประเทศไทย, เปลี่ยนวีซ่าจากท่องเที่ยวเป็นนักธุรกิจ, การยินยอมให้เข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งที่ไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นต้น หากพบหลักฐานจะต้องมีการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา รวมถึงต้องสกัดคนเหล่านี้ออกจากสังคม ตม. และส่งรายงานมาเป็นรายลักษณ์อักษร การลงตรวจพื้นที่พร้อมสื่อมวลชน เพื่อให้คลายข้อสงสัยและมีความกระจ่าง พร้อมกับตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานไปพร้อมๆกัน
ส่วนการประชุมบริหารประจำเดือนจะประชุมผ่าน Video Conference ไม่มีการเรียกหัวหน้าด่านเข้ามาประชุมที่กรุงเทพฯ ระดมกวาดล้างทั่วประเทศ เช่น ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมายทั้งการลัก ลอบเข้าเมืองหรืออยู่เกินกำหนด อาชญกรรมข้ามชาติตามหมายจับของไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ เพื่อจับกุมและส่งกลับบุคคลไม่พึงประสงค์ออกนอกประเทศ และต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศต่างๆมาแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และอบรมเจ้าหน้าที่ ตม.ของไทยบริเวณแถบชายแดน และเจ้าหน้าที่ ตม.ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย เข้าอบรมเพื่อให้การดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ได้กำหนดแผนงานในช่วงระยะเวลา1ปีแรก โดยช่วง3เดือนแรก สั่งการให้ผู้บังคับการทุกหน่วยในสังกัดไปตรวจสอบหน่วยของตัวเองอีกครั้ง เกี่ยวกับงานในความรับผิดชอบและผู้ใต้บังคับบัญชา ในประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงทั้ง 6 ประเด็น เช่น การรับจ้างทำเรื่องขยายเวลาอยู่ต่อในประเทศไทย, เปลี่ยนวีซ่าจากท่องเที่ยวเป็นนักธุรกิจ, การยินยอมให้เข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายทั้งที่ไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นต้น หากพบหลักฐานจะต้องมีการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา รวมถึงต้องสกัดคนเหล่านี้ออกจากสังคม ตม. และส่งรายงานมาเป็นรายลักษณ์อักษร การลงตรวจพื้นที่พร้อมสื่อมวลชน เพื่อให้คลายข้อสงสัยและมีความกระจ่าง พร้อมกับตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานไปพร้อมๆกัน
ส่วนการประชุมบริหารประจำเดือนจะประชุมผ่าน Video Conference ไม่มีการเรียกหัวหน้าด่านเข้ามาประชุมที่กรุงเทพฯ ระดมกวาดล้างทั่วประเทศ เช่น ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมายทั้งการลัก ลอบเข้าเมืองหรืออยู่เกินกำหนด อาชญกรรมข้ามชาติตามหมายจับของไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ เพื่อจับกุมและส่งกลับบุคคลไม่พึงประสงค์ออกนอกประเทศ และต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศต่างๆมาแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และอบรมเจ้าหน้าที่ ตม.ของไทยบริเวณแถบชายแดน และเจ้าหน้าที่ ตม.ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย เข้าอบรมเพื่อให้การดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน