รัสเซียเดินหน้าถล่มซีเรียเป็นวันที่ 3 ในวันศุกร์(2ต.ค.) แต่เป้าหมายส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ยึดครองโดยฝายกบฏ ศัตรูของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แทนที่จะเป็นนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) ตามที่กล่าวอ้าง เรียกปฏิกิริยาขุ่นเคืองหนักขึ้นจากตะวันตกและกระพือเสียงเรียกร้องจากสหรัฐฯที่ขอให้ยุติโจมตีเป้าหมายอื่นๆที่ไม่ใช่ไอเอส
พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯซึ่งกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกำราบไอเอสในซีเรียเช่นกัน เรียกร้องรัสเซียระงับการถล่มเป้าหมายอื่นๆที่ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ "เราเรียกร้องรัสเซียระงับการโจมตีฝ่ายค้านซีเรียและพลเมืองในทันที และขอให้พุ่งเป้าไปที่ความพยายามต่อสู้กับไอเอส" ถ้อยถ้อยแถลงพันธมิตรที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ ชาติมหาอำนาจหลักๆของยุโรป กลุ่มประเทศอาหรับและตุรกี
คำแถลงระบุต่อว่า "เราแสดงความกังวลใหญ่หลวงในเรื่องที่รัสเซียเสริมกำลังพลในซีเรีย และโดยเฉพาะต่อการโจมตีของกองทัพอากาศรัสเซียในเมืองฮามา ฮอมส์และอิดลิบ ตั้งแต่เมื่อวานนี้(วันพฤหัสบดี) ซึ่งทำให้พลเมืองต้องสูญเสียชีวิตและไม่ได้มีเป้าหมายที่พวกไอเอส"
วอชิงตัน เหล่าชาติตะวันตกและพันธมิตรอาหรับ กล่าวหารัสเซียกำลังใช้การทำสงครามร่วมต่อต้านไอเอสเป็นข้ออ้างในการโจมตีกลุ่มต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา เพื่อปกป้องรัฐบาลของนายอัสซาด ที่เป็นพันธมิตรของมอสโกมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น โดยบางกลุ่มที่ถูกโจมตีนั้นได้รับการฝึกฝนและสนับสนุนทางอาวุธจากศัตรูต่างชาติของนายอัสซาด ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ
พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯซึ่งกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกำราบไอเอสในซีเรียเช่นกัน เรียกร้องรัสเซียระงับการถล่มเป้าหมายอื่นๆที่ไม่ใช่พวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ "เราเรียกร้องรัสเซียระงับการโจมตีฝ่ายค้านซีเรียและพลเมืองในทันที และขอให้พุ่งเป้าไปที่ความพยายามต่อสู้กับไอเอส" ถ้อยถ้อยแถลงพันธมิตรที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ ชาติมหาอำนาจหลักๆของยุโรป กลุ่มประเทศอาหรับและตุรกี
คำแถลงระบุต่อว่า "เราแสดงความกังวลใหญ่หลวงในเรื่องที่รัสเซียเสริมกำลังพลในซีเรีย และโดยเฉพาะต่อการโจมตีของกองทัพอากาศรัสเซียในเมืองฮามา ฮอมส์และอิดลิบ ตั้งแต่เมื่อวานนี้(วันพฤหัสบดี) ซึ่งทำให้พลเมืองต้องสูญเสียชีวิตและไม่ได้มีเป้าหมายที่พวกไอเอส"
วอชิงตัน เหล่าชาติตะวันตกและพันธมิตรอาหรับ กล่าวหารัสเซียกำลังใช้การทำสงครามร่วมต่อต้านไอเอสเป็นข้ออ้างในการโจมตีกลุ่มต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา เพื่อปกป้องรัฐบาลของนายอัสซาด ที่เป็นพันธมิตรของมอสโกมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น โดยบางกลุ่มที่ถูกโจมตีนั้นได้รับการฝึกฝนและสนับสนุนทางอาวุธจากศัตรูต่างชาติของนายอัสซาด ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ