พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนักธุรกิจ และแพทย์ไทยในนครนิวยอร์ก และรัฐใกล้เคียง อาทิ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้นำเข้าผลิตภัณท์อาหารไทย เครื่องดื่ม กล้วยไม้ ผู้ประกอบธุรกิจอัญมณีเครื่องประดับ ธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจน้ำหอมและธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติมาพบ ซึ่งการมาประชุมสหประชาชาติครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่คนไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินงานต่างๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาด้านประมง ปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ การอำนวยความสะดวกโดยจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อลดขั้นตอนราชการ รวมทั้งตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับคำร้องเรียนจากประชาชน โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ คือ สถานเอกอัครราชทูต
สำหรับการส่งเสริมการลงทุนนั้น รัฐบาลดำเนินการปรับสัดส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่ใช่ภาษี จัดตั้งและส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น และยังขอให้นักธุรกิจเชื่อมโยงกับธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยด้วย
จากนั้นนักธุรกิจได้เสนอให้รัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล หรือ Medical Hub เพื่อสนับสนุนให้ชาวอเมริกัน เดินทางมารักษาตัวที่ประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ และอวัยวะเทียม เนื่องจากไทยมีศักยภาพ ตลอดจนสนับสนุนการส่งออกสมุนไพรไทย ส่งเสริมการปลูกมะพร้าว นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยยังได้ขอให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ด้วย
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติมาพบ ซึ่งการมาประชุมสหประชาชาติครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่คนไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินงานต่างๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาด้านประมง ปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ การอำนวยความสะดวกโดยจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อลดขั้นตอนราชการ รวมทั้งตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับคำร้องเรียนจากประชาชน โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ คือ สถานเอกอัครราชทูต
สำหรับการส่งเสริมการลงทุนนั้น รัฐบาลดำเนินการปรับสัดส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่ใช่ภาษี จัดตั้งและส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น และยังขอให้นักธุรกิจเชื่อมโยงกับธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยด้วย
จากนั้นนักธุรกิจได้เสนอให้รัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล หรือ Medical Hub เพื่อสนับสนุนให้ชาวอเมริกัน เดินทางมารักษาตัวที่ประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์ และอวัยวะเทียม เนื่องจากไทยมีศักยภาพ ตลอดจนสนับสนุนการส่งออกสมุนไพรไทย ส่งเสริมการปลูกมะพร้าว นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยยังได้ขอให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ด้วย