นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน รักษาราชการการแทนผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นายธงชัย สมบัติจิราภรณ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และ พ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 แถลงข่าวการตรวจค้นจับกุมโกดังเก็บสินค้าและสถานที่จำหน่ายสินค้า ประเภทแบตเตอรีสำรองและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือปลอมเครื่องหมายการค้า ตามที่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งให้สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาเร่งรัดปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในส่วนที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่มีคุณภาพ อันมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภคโดยตรง
นางสุวณา กล่าวว่า สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พลับพลาไชย 1 นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสินค้า และแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือปลอมเครื่องหมายการค้า ย่านถนนเสือป่า รวม 7 จุดด้วยกัน ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เช่น แบตเตอรีสำรอง (POWER BANK) หูฟังปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ APPLE SAMSUNG HELLO KITTY จำนวนทั้งสิ้น 20,662 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และได้จับกุมตัว น.ส.สุภาพร ตั้งสถาพรพันธ์ กับพวก และ นายสุวัฒน์ จำรัสวิมลรัตน์ เป็นผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า จำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และหลีกเลี่ยงภาษีอากร ฯลฯ
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ตัวแทนผู้เสียหายแจ้งว่าสินค้าของกลางที่ทำการยึดมานั้น ไม่มีคุณภาพ และไม่มีมาตรฐานในการผลิต ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่นำไปใช้งานได้
อนึ่งจากการที่ประเทศไทยถูกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้าอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ในเรื่องของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 201 พิเศษ ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีผลทำให้ประเทศไทยต้องถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าประเทศไทยได้ สูญเสียโอกาสทางการค้าอย่างมากจนถึงปัจจุบันจึงเป็นหน้าที่โดยตรงของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะ ต้องเข้มงวดกวดขันในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศในเรื่องดังกล่าว
นางสุวณา กล่าวว่า สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พลับพลาไชย 1 นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสินค้า และแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือปลอมเครื่องหมายการค้า ย่านถนนเสือป่า รวม 7 จุดด้วยกัน ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เช่น แบตเตอรีสำรอง (POWER BANK) หูฟังปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ APPLE SAMSUNG HELLO KITTY จำนวนทั้งสิ้น 20,662 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และได้จับกุมตัว น.ส.สุภาพร ตั้งสถาพรพันธ์ กับพวก และ นายสุวัฒน์ จำรัสวิมลรัตน์ เป็นผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า จำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และหลีกเลี่ยงภาษีอากร ฯลฯ
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ตัวแทนผู้เสียหายแจ้งว่าสินค้าของกลางที่ทำการยึดมานั้น ไม่มีคุณภาพ และไม่มีมาตรฐานในการผลิต ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่นำไปใช้งานได้
อนึ่งจากการที่ประเทศไทยถูกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้าอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ในเรื่องของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 201 พิเศษ ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีผลทำให้ประเทศไทยต้องถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าประเทศไทยได้ สูญเสียโอกาสทางการค้าอย่างมากจนถึงปัจจุบันจึงเป็นหน้าที่โดยตรงของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะ ต้องเข้มงวดกวดขันในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศในเรื่องดังกล่าว