นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการดำเนินการภายหลังราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 314/2558 เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร. มทบ.11) เพื่อใช้เป็นที่คุมขังผู้ต้องหาในคดีระเบิดบริเวณราชประสงค์ ว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ย. ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปตรวจดูพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดตั้งเป็นเรือนจำชั่วคราว โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวยังต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับการควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 คน คือ นายบิลา มูฮัมหมัด หรือนายอาเดม คาราดัก และนายมีไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องขังในคดีระเบิดราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ในฐานะต้นสังกัดของเรือนจำชั่วคราวฯ โดยจะมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้คุมพิเศษ เพื่อให้ทหารมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ในการทำหน้าที่รักษาสถานที่ และดูแลความปลอดภัยภายในบริเวณเรือนจำชั่วคราว
ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น ตนในฐานะต้นสังกัดของเรือนจำชั่วคราวฯ จะต้องมีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ควบคุมพิเศษ ประมาณ 20 นาย และส่งเจ้าหน้าที่เรือนจำไปประจำที่ พัน.ร.มทบ.11 อีกจำนวน 4 นาย ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ เพื่อให้ทำงานร่วมกันในการควบคุม และดูแลผู้ต้องขังที่จะถูกส่งไปคุมขังยังเรือนจำชั่วคราวฯดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจะต้องมีการแนะนำขั้นตอนและระเบียบในการปฏิบัติแก่ผู้ต้องขังให้เจ้าหน้าที่ทหารทราบด้วย ทั้งนี้ การควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 คน ยังเรือนจำชั่วคราวฯ ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน จะต้องถูกแยกคุมขัง ไม่ให้อยู่ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำตัวผู้ต้องขังไปควบคุมยังเรือนจำชั่วคราวได้เมื่อไร นอกจากนี้ สำหรับการประกอบอาหารให้ผู้ต้องขังถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ยังยอยู่ระหว่างการหารือในเรื่องนี้กับกรมราชทัณฑ์อยู่
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ในฐานะต้นสังกัดของเรือนจำชั่วคราวฯ โดยจะมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้คุมพิเศษ เพื่อให้ทหารมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ในการทำหน้าที่รักษาสถานที่ และดูแลความปลอดภัยภายในบริเวณเรือนจำชั่วคราว
ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น ตนในฐานะต้นสังกัดของเรือนจำชั่วคราวฯ จะต้องมีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ควบคุมพิเศษ ประมาณ 20 นาย และส่งเจ้าหน้าที่เรือนจำไปประจำที่ พัน.ร.มทบ.11 อีกจำนวน 4 นาย ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ เพื่อให้ทำงานร่วมกันในการควบคุม และดูแลผู้ต้องขังที่จะถูกส่งไปคุมขังยังเรือนจำชั่วคราวฯดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจะต้องมีการแนะนำขั้นตอนและระเบียบในการปฏิบัติแก่ผู้ต้องขังให้เจ้าหน้าที่ทหารทราบด้วย ทั้งนี้ การควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 คน ยังเรือนจำชั่วคราวฯ ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน จะต้องถูกแยกคุมขัง ไม่ให้อยู่ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำตัวผู้ต้องขังไปควบคุมยังเรือนจำชั่วคราวได้เมื่อไร นอกจากนี้ สำหรับการประกอบอาหารให้ผู้ต้องขังถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ยังยอยู่ระหว่างการหารือในเรื่องนี้กับกรมราชทัณฑ์อยู่