เจ้าหน้าที่นำตัว “มีไรลี ยูซูฟู” ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่บริเวณแยกราชประสงค์ และจุดส่งมอบเป้บรรจุระเบิดให้ชายเสื้อเหลืองที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ท่ามกลางการวางกำลังคุ้มกันอย่างหนาแน่น ก่อนนำตัวไปทำแผนที่ย่านรามคำแหงในช่วงบ่าย และขอฝากขังต่อศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป
วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 06.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราชและทหารกว่า 100 นาย นำตัวนายยูซูฟู ไมไรลี ผู้ต้องหาในคดีระเบิดราชประสงค์ และสะพานท่าเรือสาทร ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 4 แห่ง จำนวน 12 จุด ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกสำนักข่าวให้เว้นระยะห่างจากผู้ต้องหา 15-20 เมตร
สถานที่แรกบริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จุดที่ 1 เริ่มที่หน้าวัดปทุมวนารามฯ เป็นจุดที่นายยูซูฟูนั่งรถสามล้อมาจากหัวลำโพง และลงเดินเท้าต่อเลียบทางประตูหลังห้าง Zen กระทั่งถึงประตูหน้าห้าง Zen เพื่อชี้จุดวางระเบิดที่แยกราชประสงค์
ทั้งนี้ ในระหว่างนำตัวนายยูซุฟูไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศไม่แสดงบัตรผู้สื่อข่าวในการทำข่าว ทำให้ตำรวจต้องนำตัวไปค้นตัวบริเวณด้านนอกการชี้จุด และเกิดปากเสียงกับเจ้าหน้าที่เล็กน้อย แต่เมื่อค้นตัวผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวก็พบบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่จึงตักเตือนและบอกให้แสดงบัตรระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง
ต่อมาเมื่อถึงจุดที่ 5 ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ บริเวณลานน้ำพุ นายยูซูฟูมาเพื่อรอถ่ายรูประหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุซึ่งนายยูซูฟูอ้างว่าไม่ได้ถ่ายรูปเนื่องจากตอม่อบังอยู่ จากนั้นนายยูซูฟูจึงเดินมาบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ตรงข้ามบิ๊กซี ราชดำริ เพื่อเรียกแท็กซี่ไปลงห้างประตูน้ำเซ็นเตอร์
สถานที่ที่ 2 ห้างประตูน้ำเซ็นเตอร์ คือจุดที่ 7 บริเวณหน้าห้างประตูน้ำเซ็นเตอร์เป็นจุดที่นายยูซูฟูเรียกรถแท็กซี่ไปรามคำแหงเพื่อไปต่อรถเมล์กลับมีนบุรี
สถานที่ที่ 3 สถานีรถไฟหัวลำโพง คือ บริเวณสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ข้างสถานีรถไฟหัวลำโพง บริเวณสะพานหนึ่งข้างสถานีหัวลำโพงเป็นจุดที่ชายเสื้อเหลืองมายืนรอนายยูซูฟู และจุดต่อมาบริเวณม้านั่งระหว่างสะพานหนึ่งกับสะพานสองข้างสถานีหัวลำโพง เป็นจุดที่นายยูซูฟูวางสับเปลี่ยนกระเป๋าให้ชายเสื้อเหลือง หลังจากนั้นนายยูซูฟูและชายเสื้อเหลืองแยกย้านกันหน้าสะพานที่ 2 ข้างหัวลำโพงโดยนายยูซูฟูนั่งสามล้อไปลงยังวัดปทุมวนารามฯ
พล.ต.ท.ประวุฒิเปิดเผยหลังนำตัวนายยูซูฟูชี้จุดที่หัวลำโพงซึ่งเป็นจุดที่แยกย่ายกับชายเสื้อเหลืองหลังแลกกระเป๋าว่า ในจุดนี้เป็นจุดที่นายยูซูฟูระบุว่าเป็นจุดที่ทั้ง 2 คนนัดพบกันเพื่อสลับกระเป๋าเป้ที่คาดว่าบรรจุระเบิดกัน โดยนายยูซุฟูให้การว่าในกระเป๋าใบที่นำมาให้ชายเสื้อเหลืองนั้นมีน้ำหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม นำมาจากย่านหนองจอก จึงคาดว่าน่าจะมีระเบิดอยู่ภายใน ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกัน โดยชายเสื้อเหลืองแยกไปขึ้นรถสามล้อไปแยกราชประสงค์ ขณะที่นายยูซูฟูแยกไปขึ้นรถสามล้อไปวัดปทุมวนาราม ก่อนจะเดินต่อไปยังหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากได้รับคำสั่งให้ถ่ายรูปหลังเกิดระเบิด แต่นายยูซูฟูอ้างว่ามีตอม่อบังจึงไม่สามารถถ่ายรูปได้ ก่อนจะไปยังประตูน้ำ คำรับสารภาพนั้นมีความสอดคล้องกับหลักฐานและคำให้การของพยาน ทั้งนี้นายยูซูฟูยังไม่ได้รับสารภาพถึงขั้นว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดแต่อย่างใด
สถานที่สุดท้ายซอยรามคำแหง 22 คือจุดที่ 12 จุดที่นายยูซูฟูนั่งแท็กซี่จากหน้าห้างประตูน้ำเซ็นเตอร์มายังหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก ซอยรามคำแหง 22 จุดดังกล่าวจากแนวทางการสืบสวนเชิงลึกประกอบกับภาพวงจรปิดในวันที่ 5 สิงหาคม พบว่านายยูซูฟูและนายอิซานที่ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ว่าจ้างเดินทางมายังธนาคารเพียงแค่สองคนเพื่อมาทำธุรกรรมทางการเงินโดยการโอนเงินจำนวนหนึ่ง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายยูซูฟูไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรีช่วงบ่าย