นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะครบวาระการดำรงตำแหน่งถึง 5 คน ในวันที่ 21 กันยายนนี้ ประกอบด้วย นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. นายวิชา มหาคุณ นายวิชัย วิวิตเสวี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย และนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ว่า ต้องมีการดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.เข้ามาใหม่แทนผู้ที่จะครบวาระ
อย่างไรก็ตาม ในกฎหมาย ป.ป.ช.ระบุว่า ในระหว่างการสรรหานั้น กรรมการ ป.ป.ช. ยังทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีกรรมการ ป.ป.ช.ใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นจึงไม่ได้เดือดร้อนอะไร ยังมีคนทำหน้าที่อยู่
ส่วนกรรมการสรรหานั้น เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2558 โดยกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองนายกรัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย แต่วันนี้เหลือเพียง 4 คน เพราะไม่มีประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งยังเป็นปัญหาอยู่ว่าผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการจะเข้าร่วมสรรหาได้หรือไม่
ทั้งนี้ จะต้องมีการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พ้นตำแหน่ง ซึ่งจะได้มีการประกาศรับสมัครต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในกฎหมาย ป.ป.ช.ระบุว่า ในระหว่างการสรรหานั้น กรรมการ ป.ป.ช. ยังทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีกรรมการ ป.ป.ช.ใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นจึงไม่ได้เดือดร้อนอะไร ยังมีคนทำหน้าที่อยู่
ส่วนกรรมการสรรหานั้น เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2558 โดยกรรมการสรรหา จำนวน 5 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองนายกรัฐมนตรีที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย แต่วันนี้เหลือเพียง 4 คน เพราะไม่มีประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งยังเป็นปัญหาอยู่ว่าผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการจะเข้าร่วมสรรหาได้หรือไม่
ทั้งนี้ จะต้องมีการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พ้นตำแหน่ง ซึ่งจะได้มีการประกาศรับสมัครต่อไป
