ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยทั้งดาวโจนส์, เอสแอนด์พี500 และแนสแด็ก ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.8% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและสหรัฐ ชะลอตัวลง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 1 ก.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 469.68 จุด หรือ 2.84% ปิดที่ 16,058.35 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 58.33 จุด หรือ 2.96% ปิดที่ 1,913.85 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 140.40 จุด หรือ 2.94% ปิดที่ 4,636.11 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไคซิน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 47.1
นอจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ด้านมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.8%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากการดิ่งลงของตลาดหุ้นทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 4.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกพากันร่วงลง ภายหลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและสหรัฐชะลอตัวลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไคซิน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 47.1
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ระดับ 1,139.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.56% มาอยู่ที่ระดับ 95.88 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นดิ่งลงทั้งในตลาดสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย หลังจากมาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 1 ก.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 469.68 จุด หรือ 2.84% ปิดที่ 16,058.35 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 58.33 จุด หรือ 2.96% ปิดที่ 1,913.85 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 140.40 จุด หรือ 2.94% ปิดที่ 4,636.11 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไคซิน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 47.1
นอจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ด้านมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.8%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากการดิ่งลงของตลาดหุ้นทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 4.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกพากันร่วงลง ภายหลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและสหรัฐชะลอตัวลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไคซิน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 47.1
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ระดับ 1,139.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.56% มาอยู่ที่ระดับ 95.88 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลดอลลาร์มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นดิ่งลงทั้งในตลาดสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย หลังจากมาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50
