นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข(สธ.) เผยได้กำชับหน่วยบริการในสังกัดกวดขันมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคเมอร์สอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากการมีที่ผู้เดินทางไปและกลับจากพื้นที่ติดโรค รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ที่มีผู้ป่วยโรคต่างๆ เข้ามารับการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยังมีผู้ไปแสวงบุญที่จะเดินทางกลับประเทศไทยระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-28 ต.ค.58
ทั้งนี้ สธ.ได้เตรียมมาตรการรองรับ 7 ข้อ ดังนี้ 1.จัดระบบการตรวจสุขภาพและการเฝ้าระวังโรค ผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 2.จัดทำแผนรองรับและเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีจำนวนผู้เดินทางไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก ให้มีการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทาง ที่ช่องทางเข้าออกประเทศ / ติดตามกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการคัดกรองในโรงพยาบาลและรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ 3.เตรียมพร้อมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วย รวมทั้งระบบการส่งต่อผู้ป่วย
4.เตรียมพร้อมบุคลากรโรงพยาบาล และทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ทั้งด้านความรู้ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตนเองส่วนบุคคลให้เพียงพอ 5.เตรียมพร้อมการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 14 เขต 6.ให้ความรู้กลุ่มเป้าหมาย จัดทำคำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความร่วมมือแก่ผู้ที่รับตัวไว้เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ และ 7.เตรียมความพร้อมสถานที่รับตัวไว้สังเกตอาการ(Quarantine) กำหนดสถานที่รองรับไว้ 3 ส่วน คือ ในโรงพยาบาล ที่พักที่กำหนดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และใช้เขตพื้นที่ทหาร
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวกระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียแถลงพบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่ 14 คนนั้น สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของกระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียว่าในระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2558 พบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สรายใหม่ 49 ราย โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ในเมืองอัรริยาด อัลบาฮะห และนัจญ์รอน ซึ่งทั้ง 3 เมืองไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีทางศาสนาของผู้แสวงบุญ และสำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยัน 1 รายชาวโอมาน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 รักษาหายและเดินทางกลับประเทศแล้ว ส่วนผู้อยู่ในเกณฑ์สอบสวนโรค ผลเป็นลบทั้งหมด และยังคงเข้มมาตรการคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรคเช่นเดิม
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้รายงานสถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์ส 1,474 ราย เสียชีวิต 515 ราย ส่วนในประเทศซาอุดิอาระเบีย รายงานว่าเดือนสิงหาคมจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระหว่างวันที่ 1-23 สิงหาคม 2558 พบผู้ป่วยทั้งหมด 90 ราย เสียชีวิต 11 ราย
ทั้งนี้ สธ.ได้เตรียมมาตรการรองรับ 7 ข้อ ดังนี้ 1.จัดระบบการตรวจสุขภาพและการเฝ้าระวังโรค ผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 2.จัดทำแผนรองรับและเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีจำนวนผู้เดินทางไปแสวงบุญเป็นจำนวนมาก ให้มีการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทาง ที่ช่องทางเข้าออกประเทศ / ติดตามกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการคัดกรองในโรงพยาบาลและรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ 3.เตรียมพร้อมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วย รวมทั้งระบบการส่งต่อผู้ป่วย
4.เตรียมพร้อมบุคลากรโรงพยาบาล และทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ทั้งด้านความรู้ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตนเองส่วนบุคคลให้เพียงพอ 5.เตรียมพร้อมการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 14 เขต 6.ให้ความรู้กลุ่มเป้าหมาย จัดทำคำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความร่วมมือแก่ผู้ที่รับตัวไว้เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ และ 7.เตรียมความพร้อมสถานที่รับตัวไว้สังเกตอาการ(Quarantine) กำหนดสถานที่รองรับไว้ 3 ส่วน คือ ในโรงพยาบาล ที่พักที่กำหนดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และใช้เขตพื้นที่ทหาร
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวกระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียแถลงพบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่ 14 คนนั้น สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของกระทรวงสาธารณสุขประเทศซาอุดิอาระเบียว่าในระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2558 พบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สรายใหม่ 49 ราย โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ในเมืองอัรริยาด อัลบาฮะห และนัจญ์รอน ซึ่งทั้ง 3 เมืองไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีทางศาสนาของผู้แสวงบุญ และสำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยัน 1 รายชาวโอมาน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 รักษาหายและเดินทางกลับประเทศแล้ว ส่วนผู้อยู่ในเกณฑ์สอบสวนโรค ผลเป็นลบทั้งหมด และยังคงเข้มมาตรการคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรคเช่นเดิม
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้รายงานสถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์ส 1,474 ราย เสียชีวิต 515 ราย ส่วนในประเทศซาอุดิอาระเบีย รายงานว่าเดือนสิงหาคมจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระหว่างวันที่ 1-23 สิงหาคม 2558 พบผู้ป่วยทั้งหมด 90 ราย เสียชีวิต 11 ราย
